วันพฤหัสบดีที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2555

.รู้จักผู้ชาย เข้าใจผู้หญิง

*-* "ความเป็นห่วง"สำหรับผู้หญิง คือวิธีแสดงความรัก
"ความเป็นห่วง"  สำหรับผู้ชาย คือการถูกควบคุม

ข้อเสียของผู้หญิงในเรื่องความรักคืิอ "คิดมาก"
ข้อเสียของผู้ชายในเรื่องความรักคือ  "คิดน้อย"

มุมมองของผู้ชาย (บางคน)
ผู้หญิงส่วนใหญ่ชอบทำตัวเป็นหนังสือ

บางเล่มก็ "เข้าใจยาก" จนไม่อยากอ่านต่อ
บางเล่มก็ "เข้าถึงง่าย" จนไม่อยากอ่านอีก

สำหรับผู้ชายบางคนเท่านั้น
การตั้งคำถามว่า "ไว้ใจผมไหม"           
อาจเพราะเขาอยากรู้ว่าคุณง่ายแค่ไหน   
  การตั้งคำถามว่า "ไม่เชื่อใจผมหรือ"        
อาจเพราะเขาอยากรู้ว่าคุณโง่แค่ไหน     

สำหรับผู้หญิง ความรัก คือความพยายามเปลี่ยนตัวเองทุกอย่าง
เพื่อรักษาความรักให้คงอยู่                                               
 และมักตั้งคำถามยากๆว่า ฉันยังมีอะไรที่ไม่ดีอีก                      

  สำหรับผู้ชาย ความรัก คือการไม่พยายามเปลี่ยนอะไรในตัวเองเลย
เพื่อจะยุติความรัก                                                          
และมักให้คำตอบง่ายๆว่า ผมมันเลวเอง                               

ผู้หญิงรัก คนเลว
เพราะคาดหวังว่า ความรัก จะเปลี่ยนแปลงเขาให้ไปในทางที่ดีขึ้น

ผู้ชายรัก คนสวย
เพราะคาดหวังว่า เวลาจะไม่เปลี่ยนแปลงเธอไปในทางที่เลวลง

อย่าประมาณความหมายของน้ำตาผู้หญิง
เพราะมันไม่ได้มีความหมายเพียง          
ดีใจ หรือ เสียใจ
      และไม่ใช่สัญลักษณ์ของความอ่อนแอเสมอไป
เพราะบางครั้งมันก็หมายถึง                    
เรียกร้องความสนใจ                            
สำออย                                            
และ                                                
เสแสร้ง                                           


ธรรมชาติของผู้หญิงคือ ไฟ
ที่พร้อมจะเผาทุกอย่างได้อย่างรวดเร็ว
           เมื่อเผาสิ่งรอบตัวจนไม่เหลืออะไรให้เผาแล้ว...
  ก็หันมาเผาตัวเอง                             

ธรรมชาติของผู้ชายคือ  น้ำ
อยู่ในภาชนะใด ก็มีรูปร่างแบบสิ่งนั้น
ลื่นไหลไปได้เรื่อยๆ ไม่มีวันสิ้นสุด   
และไม่รู้จักคำว่าพอ                   




ข้อคิดยามท้อแท้

*-*


ข้อคิดยามท้อแท้
1. โลกกลมๆ ใบนี้ ไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ
2. ของฟรีไม่เคยมี ของดีไม่เคยถูก
3. อยู่ให้ไว้ใจ ไปให้คิดถึง
4. คนเราต้องเดินหน้า..เวลายังเดินหน้าเลย
5. ไม่ต้องสนใจว่า แมวจะสีขาวหรือสีดำ ขอให้จับหนูได้ก็พอ
6. ยิ่งมีใจศรัทธา ยิ่งต้องมีสายตาที่เยือกเย็น
7. ในโลกกลมๆ ใบนี้ ไม่มีคำว่าแน่นอน
8. คนเราเมื่อม้าตาย ก็ต้องลงเดิน
9. ท้อแท้ได้แต่อย่า…ท้อถอย
10. อิจฉาได้แต่อย่าริษยา
11. พักได้แต่อย่าหยุด
12. หนทางอันยาวไกลนับหมื่นลี้ ต้องเริ่มต้นด้วยก้าวแรกเสมอ
13. จะเห็นค่าของความอบอุ่น เมื่อผ่านความเหน็บหนาวมาแล้ว
14. เริ่มต้นดีแล้ว ลงท้ายก็ต้องดีด้วย
15. จงใช้สติ อย่าใช้อารมณ์
16. เบื้องหลังความเข้มแข็ง สมควรมีความอ่อนโยน
17. หลังผ่านปัญหา จะรู้ว่าปัญหานั้นเล็กนิดเดียว
18. ไม่เป็นขุนนางได้ แต่ไม่เป็นคนไม่ได้

หากท้อแท้ แค่ท้อแท้อย่าแพ้พ่าย
หากท้อแท้ จงอย่าหน่ายใจสลาย
หากท้อแท้ ลองพักผ่อนหย่อนใจกาย
หากท้อแท้ แค่ใจหาย ยังหายใจ

หากท้อแท้ ลองมองดูผู้คนอื่น
หากท้อแท้ หลับสักตื่นคืนสดใส
หากท้อแท้ แค่เพราะใจเหนื่อยเกินไป
หากท้อแท้ กำลังใจ สร้างให้ตน

..ใช่ท้อแท้เพราะแพ้พ่ายใครที่ไหน
แต่เพราะใจเราที่แพ้..ต่อหวั่นไหว
แค่เพราะเผลอปล่อยเข้มแข็งหลุดลอยไป
เรียกมาใหม่กำลังใจย้อนกลับคืน..
**************************************************

วันเสาร์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2555

คำคมของปราชญ์จีน

(**) ๑
? ชมคนด้วยวาจา?มีค่ายิ่งกว่ามอบไข่มุกให้เป็นของขวัญ
ทำร้ายคนด้วยวาจา?สาหัสยิ่งกว่าทิ่มแทงด้วยหอกดาบ..?
?ซุนวู?


? คนอื่นช่วยเรา?เราจะจำไว้ชั่วชีวิต
เราช่วยคนอื่น?จงอย่าจำใส่ใจ ?
?ฮั่วหลัวเกิง?


? มีชีวิตอย่างไร้คุณธรรม
มิสู้ตายอย่างมีคุณธรรม
ได้มาด้วยความคดโกง
มิสู้ยอมเสียอย่างซื่อตรง??
?หวังติ้งเป่า?


? น้ำใสสะอาดเกินไป?ย่อมไร้ซึ่งมัจฉา
คนที่เข้มงวดเกินไป??ย่อมไร้ซึ่งบริวาร ?
?ปันกู้?


? ความไม่พอใจ?ความกลัดกลุ้มหงุดหงิด
ควรจะเป็นสิ่งที่ทำให้เราฮึดสู้มากยิ่งขึ้น
ไม่ควรเป็นสิ่งที่ทำให้เราท้อแท้ ..ห่อเหี่ยวยอมจำนนต่ออุปสรรค์??
?หลี่ต้าเจา?


? ในชีวิตของเรา..มิตรภาพเปรียบเสมือนโคมส่องสว่าง
ดวงหนึ่ง?.ซึ่งสาดส่องจิตวิญญาณของเราให้สว่างไสว
ทำให้ชีวิตของเรามีแสงสีอันงดงาม..?
?ปาจิน?

๗.
? ตัวสกปรกก็คิดจะอาบน้ำ เท้าสกปรกก็คิดจะล้างเท้า  แต่ใจสกปรก กลับไม่คิดที่จะชำระใจ??
?หยางว่านหลี่?

๘.
? สุขสบายเกินไป  เส้นสายก็พลอยหย่อนยาน  จิตใจก็พลอยขลาดกลัว?
?หูหลินอี้?

๙.
? พูดน้อย กลุ้มน้อย ตัณหาน้อย นอนน้อย...ถ้าสี่อย่างนี้น้อย ก็ใกล้จะเป็นเซียนแล้ว?
?ซุนซือเหมี่ยว?

๑๐.
? คนที่เชื่อมั่นในตนเองมากเกินไป?เป็นคนที่โดดเดี่ยวอ้างว้างที่สุด!?
?ลู่ซู?

๑๑.
? ไม่มีอะไรแย่เท่ากับความเย่อหยิ่งอวดดี?.ผู้ที่คิดว่าตัวเองไม่ดีพอ คือ คนที่ดีพอ?ผู้ที่คิดว่าตัวเองดีแล้ว คือ ผู้ที่ดีไม่พอ?!?
?ฟังเสี้ยวหยู?

๑๒.
? ต้องกล้าที่จะมองความจริง?แม้ว่าความจริงอาจจะทำให้เราเจ็บปวดมากๆ?
?จางจื้อซิน?

๑๓.
? ความอิจฉา เป็นอุปสรรคต่อมิตรภาพ?ความระแวงสงสัย..เป็นศัตรูตัวร้ายกาจของความรัก?
?ความรักถ้าปราศจากความซื่อสัตย์จริงใจต่อกันเสียแล้วก็ไม่อาจเชื่อถือซึ่งกันและกันได้?
?ซุนยาง?

๑๔
? ยามมีควรคิดถึงความจน.ยามจนไม่ควรคิดถึงยามมี..!?
?เจิงก่วงเสียนเหวิน?

๑๕
? อย่าทำความชั่ว เพราะคิดว่าผิดนิดเดียว?อย่าละเว้นการทำความดี?เพราะคิดว่าได้บุญกุศลแค่นิดเดียว??
?เผยสงจือ?

๑๖
? รู้เหตุผลไม่อับจน รู้กาละไม่ถูกด่า รู้ประหยัดไม่ขัดสน ?
?ซูลิน?

๑๗
? ใช้จิตใจที่ชอบตำหนิผู้อื่น?มาตำหนิตัวเอง?..ใช้จิตใจที่ชอบให้อภัยตัวเอง?ให้อภัยผู้อื่น..?
?เจิงจิ้นเสียนเหวิน?

๑๘
? ขี้เกียจแล้วยังฟุ่มเฟือย?ย่อมยากจน...ขยันและประหยัด..ย่อมร่ำรวย..?
?ก่วนจ้ง?

๑๙
??สูงส่งแต่ไม่เย่อหยิ่ง...ชนะแต่ไม่ลำพอง...ปราดเปรื่องแต่รู้จักลงเวที...เข้มแข็งแต่มีความอดกลั้น..?
?ขงเบ้ง?

๒๐
?..ก่อนที่จะเอาชนะคนอื่น?จักต้องเอาชนะตัวเองให้ได้เสียก่อน
ก่อนที่จะว่าคนอื่น?ควรพิจารณาดูตัวเองเสียก่อน
ก่อนหน้าที่จะรู้จักคนอื่น?ควรจะรู้จักตัวเองเสียก่อน..?
?หลี่ปุ๊เหว่ย?

๒๑
? ผู้ที่รู้จักคนอื่นเป็นคนฉลาด?..ผู้ที่รู้จักตัวเอง เป็นคนมีสติ..?
?เล่าจื้อ?

๒๒
? การตกระกำลำบากเป็นมหาวิทยาลัยชั้นสูงในการฝึกฝนยอดคน..!!?
?เหลียงฉี่เชา?

๒๓
? สิ่งที่ตัวเราไม่ชอบ ?จงอย่าทำกับคนอื่น..?
?ขงจื้อ?

๒๔.
? คนที่ทำได้อาจพูดไม่ได้?คนที่พูดได้อาจทำไม่ได้.!!?
?ซือหม่าเชียน?

๒๕.
? คนเราหนีไม่พ้นความตาย?แต่ความหมายการตายนั้นไม่เหมือนกัน?
บ้างมีค่าหนักกว่าขุนเขา?บ้างไร้ค่าเบากว่าขนนก?!?
?ซือหม่าเชียน?(*-*)

รวมคำคมบาดใจ

Do not enthuse over a passing victory. 
** อย่ากระตือรือร้นต่อชัยชนะที่ไม่ยั่งยืน 

There is not enough if there is nothing over. 
** สิ่งใดที่ไม่มีเหลือ ก็เท่ากับว่าสิ่งนั้นยังไม่เพียงพอ 

Enthusiasts seldom speak the truth. 
** ผู้ที่มีวความศรัทธาในสิ่งใดสิ่งหนึ่งอย่างแรงกล้า มักจะเป็นผู้ที่ไม่พูดความจริง 

A crowd is not company, any faces are but a gallery of pictures. 
** คนหมู่มากอยู่ร่วมกันไม่ได้หมายความว่าเป็นเพื่อนกันทั้งหมด และใบหน้าต่างๆ ของคนเหล่านั้นก็เปรียบเสมือนรูปภาพที่ติดไว้ตามผนังห้อง 

There is no necessity to fly the kite. 
** ไม่ควรจะหาเงินเลี้ยงชีพด้วยวิธีการหลอกลวงอันไม่จำเป็น 

The greatest thing in a man?s life should be done in the flush of youth. 
** สิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตนั้น ควรจะทำเมื่อยังมความสดชื่นแข็งแรงในวัยหนุ่ม 

Fallibility is not strange, but infallibity is. 
** ความผิดพลาดไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ความไม่ผิดพลาดเลยนั่นแหละที่เป็นเรื่องแปลก 

The greatest mistake you can make in life is to be continually fearing you will make one. 
** ความผิดพลาดอันใหญ่หลวงที่สุด ที่ท่านสามารถจะทำได้ในชีวิต ก็คือการกลัวอยู่ตลอดเวลาว่าจะทำผิดพลาด 

A public servant?s life is not a bed of roses ; rather is it a bed of thorns. 
** ชีวิตการเป็นข้าราชการนั้นไม่ใช่ชีวิตที่สุขสบายเลย กลับมีแต่ขวากหนามมากกว่า 

It?s all right letting yourself go, as long as you can get yourself back. 
** ถ้าคุณอยากจะปล่อยตัวก็ไม่เป็นไร ตราบใดที่คุณสามารถดึงตัวเองกลับมาได้ 

Tact consists in knowing how far to go in going too far. 
** ไหวพริบ ก็คือ การรู้ว่าจะไปได้ไกลแค่ไหน ก่อนที่จะไกลเกินไป 

Do not assume that the other fellow has intelligence to match yours. He may have more. 
** อย่าทึกทักว่าคนอื่นจะฉลาดเท่าๆ กับคุณ เขาอาจจะฉลาดกว่า 

Laugh and the world laughs with you, weep and you weep alone. 
** หัวเราะเถอะ.... แล้วคนทั่วโลกจะพลอยหัวเราะไปกับคุณ -- ร้องไห้เถอะ.... แล้วคุณจะร้องไห้คนเดียว 

Know your own faults before blaming others for theirs. 
** รู้ถึงความผิดของตนเองก่อนจะติเตียนเรื่องของผู้อื่น 

If at first you don?t succeed, try, try, try again. 
** ถ้าครั้งแรกไม่ประสบผลสำเร็จ ก็จงพยายาม--พยายาม--พยายามต่อไป 

Love means never having to say you?re "sorry" 
** ถ้ารัก..... ก็จงลืมคำว่า "เสียใจ" 

Never keep up with the Joneses. Drag them down to your level. It?s cheaper. 
** อย่าทำตัวฟู่ฟ่าตามอย่างคนอื่น ให้คนอื่นทำตามอย่างคุณ... จะประหยัดว่า 

Do not fear when your enemies criticise you. Beware when they applaud. 
** จงอย่ากลัวเมื่อศัตรูวิจารณ์ท่าน ** แต่จงพึงระวังเมื่อเขาสรรเสริญ 
Learn to walk before you run. 
** เรียนด้วยการก้าวไปก่อนที่จะวิ่ง 

Modern man thinks he loses something. -- time. When he dose not do thing quickly. Yet he does not know what to do with the time he gains -- except kill it. 
** มนุษย์สมัยใหม่รู้สึกว่าเขาเสียเวลาที่ไม่ได้ทำอะไรอย่างรวดเร็ว แต่พอเขาได้เวลามา เขาก็ไม่รู้จะทำอะไรนอกจาก -- ฆ่าเวลา

The most important things to do in this world are to get somethine to eat, something to drink and somebody to love you. 
** สิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะทำในโลกนี้ คือ หากิน.. หาดื่ม .. และหาใครสักคนที่จะรักคุณ 

The art of being a good guest is to know when to leave. 
** แขกที่ดีจะต้องรู้ว่า เมื่อใดควรจะลากลับ 

One should never place confidence in the future it dose not deserve it. 
** อย่าฝากความเชื่อมั่นไว้กับอนาคต เพราะอนาคตไม่มีค่าควรแก่การไว้ใจ 

Patience is not only a virtur -- it pays. 
** ความอดทนไม่ใช่เป็นความดีเพียงอย่างเดียว มันให้ผลตอบแทนด้วย 

If two people agree all the time, one of them is unnessary. 
** ถ้าคนสองคนมีความเห็นเหมือนกันตลอดเวลา อีกคนก็ไม่มีประโยชน์ 

Life is a one-way street. 
** ชีวิต ... เปรียบเสมือนการจราจรทางเดียว 

Patience is bitter but sweet fruits. 
** ความอดทนเป็นยาที่ขม แต่จะกลายเป็นผลไม้หวานในที่สุด 

Think before you will speak. 
** จงคิดก่อนที่ท่านจะพูด (แต่จงอย่าพูดทุกคำที่คิด) 

Judge not, that you be not judged. 
** อย่าไปพิพากษาใคร ถ้าหากท่านไม่ต้องการถูกพิพากษา 

There is no pleasure without pain. 
** ไม่มีความเพลิดเพลินใดที่ปราศจากความเจ็บปวด 

Sence of humour is a valuable. 
** อารมณ์ขันเป็นของมีค่าอย่างหนึ่ง 

The man who works knows real value of money. 
** คนผู้ซึ่งทำงานเท่านั้นที่รู้จักคุณค่าของเงินอย่างแท้จริง 

Man was not born to be defeat. 
** มนุษย์ไม่ได้เกิดมาเพื่อที่จะพ่ายแพ้ 

If you do not raise your eyes you will think you are the highest point . 
** ถ้าคุณไม่ชำเลืองตามองสูงขึ้น คุณจะคิดว่าคุณสูงที่สุดแล้ว 

Only love is not enough for marriage. 
** เฉพาะความรักอย่างเดียว ไม่เพียงพอที่จะแต่งงาน 

There?s no such thing as a free lunch. 
** ไม่มีอะไรในโลกที่จะได้มาเปล่าๆ 

Courtesy costs nothing. 
** ความสุภาพอ่อนโยน ไม่ต้องเสียเงินเลย 

Charity begins at home. 
** การทำงาน ควรจะเริ่มจากที่บ้าน 

He who would climb the ladder must begin at the bottom. 
** ผู้ที่จะปีนไต่บันได้ขึ้นไป จะต้องเริ่มจากชั้นล่างสุด 

วันอาทิตย์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2555

อยู่ที่ไหน

อยู่ที่ไหน
เพราะว่าทั้งชีวิต ตั้งความหวังไว้ตรงนั้น
แหละก็เพราะว่าฉันมันคิด ว่าสุดท้ายต้องเป็นอย่างหวัง
ถึงได้พร้อมยอมและทุ่มเท ทำมันไปหมดใจที่มี
เพียงสักครั้ง ขอแค่ครั้งเดียว มากไปไหมชีวิตนี้

* (แต่)สุดท้ายที่ฉันได้พบ ก็ไม่เห็นจะเป็นดั่งใจ
นี่นะหรือที่ฉันค้นหา อุตส่าห์หวังไปจนหมดหัวใจ
เดินมาไกลจนไม่ได้ทันมอง รอบๆกายไม่มี ไม่มีใคร
นี่ที่ไหนที่ฉันมายืนอยู่ ตัวคนเดียวเพียงลำพัง ไม่มีใครใครสักคน

** อยู่ที่ไหน...ฉันไม่มีเหลือใคร
มองทางไหน เจอเพียงความมืดมน
บนทางลำบาก อยากจะขอใครสักคน
อยู่ที่ไหน...ฉันมองไม่เห็นใคร
ทำอะไรลำพัง จนลืมคิด
ว่าสุดท้ายในชีวิต ต้องการเหลือใครสักคนอยู่ตรงนี้

( * / ** / ** )

อยู่กับฉัน อยู่ที่ไหน... อยู่ที่ไหน...

อยู่กับฉัน อยู่ตรงนี้ อยู่กับฉัน เพียงเท่านี้ 
อยู่กับฉัน ในตอนนี้ อยู่กับฉัน อยู่ที่ไหน...
อยู่ที่ไหน... อยู่ที่ไหน... อยู่ที่ไหน... อยู่ที่ไหน...