วันจันทร์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

..โคลงกลอน-สอนใจ

*-*
  แม้ใจไม่คร้ามต่อ      มรณะ ภัยฤา
ใจก็โล่งแลจะ                 สุขแท้
ยิ้มหัวบ่มัวละ                  เลยกิจ
บ่มิสิ้นหวังแม้                 ป่วยเพียงปางตายฯ.
"ดุสิตสมิต"
 
       อันกำเนิดเกิดมาในสากล      ใครจะพ้นมรณาก็หาไม่
จงระงับดับความอาลัย                  ถึงโศกไปใช่ที่จะเป็นมาฯ
"อิเหนา"
 
        ใครจะไว้ใจอะไรไว้ใจเถิด      แต่อย่าเกิดไว้ใจในสิ่งห้า
หนึ่งอย่าไว้ใจทะเลทุกเวลา          สองสัตว์เขี้ยวเล็บงาอย่าไว้ใจ
สามผู้ถืออาวุธสุดจักร้าย              สี่ผู้หญิงทั้งหลายอย่ากรายใกล้
ห้ามหากษัตริย์ทรงฉัตรชัย           ถ้าแม้ใครประมาทอาจถึงตายฯ
"นิทานเวตาล"
 
            แมลงภู่เป็นคู่ของบุษบา        โบราณว่ามีจริงทุกสิ่งสม
หญิงกับชายเป็นคู่ชูอารมณ์               ทั้งปฐมกัปป์กัลป์พุทธันดร.
"พระแท่นดงรัง"
 
      บุษบาบานเบิกสร้อย      เสาวคนธ์
ฝูงภมรมัววน                     หวี่ร้อง
นารีแรกรุ่นยล                    กำดัด   สวาทนา
ชายแต่ตอมจักต้อง            ไต่เต้าตามหาฯ
"นิทานชาคริต"
 
      เจ็ดวันเว้นดีดซ้อม      ดนตรี
อักขระห้าวันหนี                เนิ่นช้า
สามวันจากนารี                เป็นอื่น
วันหนึ่งเว้นล้างหน้า           อับเศร้าหมองศรีฯ
"โลกนิติ"
 
เนื้อ    ในไตตับต้ม         แกงยำ
ไม่    ประสบสักคำ         ที่ลิ้น
ได้    ยากลากโครงทำ     เสียเปล่า
กิน   แต่เข้าเราชิ้น         หนึ่งได้ไม่มี
"โลกนิติ"
 
วามรู้เปรียบคู่ด้วย      กำลัง  กายเฮย
สุจริตคือเกาะบัง           ศาสตร์พ้อง
ปัญญาประดุจดั่ง           อาวุธ
กุมสติต่างโล่ห์ป้อง        อาจแกล้วกลางสนามฯ
"รัชกาลที่6"
 
             เมื่อยามยิ้มยิ้มไว้แต่ในพักตร์      อย่ายิ้มนักเสียสง่าทาสฉาย
อย่าท้าวแขนท้าวคางให้ห่างกาย               อย่ากรีดกรายกรอมเพราะเที่ยวเราะเริง
"สุนทรภู่"
 
        รู้หลบพบศึกเสี้ยน       ผู้ใด ใดเฮย
แต่ผูกไม่ตรีไป                   รอบข้าง
ทำคุณอุดหนุนใน                การชอบ ทำนา
ไร้ศัตรูปองล้าง                   กลับซร้องสรรเสริญ
"รัชกาลที่6"
 
        ห้ามเพลิงไว้ไม่ได้      มีควัน
ห้ามสุริยะแสงจันทร์           ส่องไซร้
ห้ามอายุให้หัน                   คืนเล่า
ห้ามดังนี้ไว้ได้                   จึงห้ามนินทาฯ
"โลกนิติ"
 
    รู้จักสิ่งกอบโทษ      และคุณ  เพื่อนเอย
รู้จักพูดไพเราะ          จับจิต
รู้จักสนุกงาน            เพื่อนร่วม   งานแฮ
รู้จักมิตรไซร้            เลิศดี
"ดุสิตสมิต"
 
         อันอ้อยตาลหวานลิ้นแล้วสิ้นซาก        แต่ลมปากหวานหูไม่รู้หาย
ถึงเจ็บอื่นหมื่นแสนไม่แคลนคลาย              เจ็บเจียรตายเพราะเหน็บให้เจ็บใจฯ.
"สุนทรภู่"
 
          แม่น้ำคุ้งคดเคี้ยวก็ควรจร      ไม้ที่คดเข้าทำศรก็เชื่อได้
เหล็กที่คดทำเคียวเกี่ยวข้าวได้         อันคนคดนี้เห็นไม่ต้องการงาน.
"สุนทรภู่"
 
          ยามจนคนเคียดแค้น      ชิงชัง
ยามมั่งมีคนประนัง                   นอบน้อม
เฉกพฤกษ์ดกนกหวัง                เวียนสู่   เสมอมา
ปางหมดผลนกพร้อม                พรากสิ้นบินหนีฯ.
"โลกนิติ"
 
                ประเพณีตีงูให้หลังหัก      มันก็มักทำร้ายเมื่อภายหลัง
จรเข้ใหญ่ไปถึงน้ำมีกำลัง                 เหมือนเสือขังเข้าถึงดงก็คงร้าย
อันแม่ทัพจับได้แล้วไม่ฆ่า                ไปข้างหน้าศึกจะใหญ่ขึ้นใจหาย
ต้องคำรับจับให้มั่นคั้นให้ตาย            จะทำภายหลังยากลำบากครัน
.
"สุนทรภู่"
 
           ไปเรือนท่านไซร้อย่า      เนานาน
พูดแต่พอควรการ                     กลับเหย้า
ริเริ่มเรียนการงาน                    เรือนอาต-มานา
ยากเท่ายากอย่าเศร้า                เสื่อมสิ้นความเพียร.
"โลกนิติ"
 
                คืนและวันพลันดับก็ลับล่วง      ท่านทั้งปวงจงอุตส่าห์หากุศล
พลัยชีวิตคิดถึงรำพึงตน                           อายุคนนั้นไม่ยืนถึงหมื่นปี.
"อิศรญาณภาษิต"
 
                 ใช่ญาติมิตรสนิทเนื้อเขาเกื้อหนุน      ควรคิดคุณท่านกว่าจะอาสัญ
ถึงไม่มีสิ่งใดจะให้ปัน                                         อุตส่าห์หมั่นสรรเสริญเจริญพรฯ.
"สุนทรภู่"
 
                 ตีงูงูไซร้หาก      เห็นทัน
นมไก่ไก่สำคัญ                   ไก่รู้
หมู่โจรต่อโจรหัน                 เห็นเล่ห์ กันนา
เชิงปราชญ์ฉลาดกล่าวผู้       ปราชญ์รู้เชิงกันฯ.
"โลกนิติ"
 
            ก้านบัวบอกลึกตื้น      ชลธาร
มรรยาทส่อสันดาน                 ชาติเชื้อ
โฉดฉลาดเพราะคำขาน         ควรทราบ
หย่อมหญ้าเหี่ยวแห้งเรื้อ         บอกร้ายแสลงดินฯ
"โลกนิติ"
 
              อันรักษาศีลสัยต์กัตเวที      ย่อมเป็นที่สรรเสริญเจริญตน
ทรลักษณ์อกตัญญูต่อเขา                 เทพเจ้าก็จะแช่งทุกแห่งหนฯ
"สุนทรภู่"
 
              เวลาใดทำใจให้ผ่องแผ้ว      เหมือนได้แก้วมีค่าเป็นราศี
เวลาใดทำใจให้ราคี                           เหมือนมณีแตกหมดลดราคาฯ.
"อุทานธรรม จ.ศ."
 
                  อันรักกันอยู่ไกลถึงขอบฟ้า      เหมือนชายคาเข้ามาเบียดดูเสียดสี
อันชังกันอยู่ใกล้สักองคุลี                           ก็เหมือนมีแนวป่าเข้ามาบังฯ.
"สุภาษิตสอนหญิง"
 
          อันรสปากหากหวานก็หวานเด็ด       บรเพ็ดก็ไท่ทากเท่าปากขม
มีดว่าคมก็ไม่คมเท่าปากคม                     รสหวานขมคมไม่มากเหมือนปากคนฯ.
"สุภาษิตสอนหญิง"
 
             ร้อนอะไรในมนุษย์ที่จุดจบ      ไม่ร้อนลบแรงราดซ้ำยากเผา
เพลิงโมโหโทสามิซาเซา                     ร้อนลุ่มเราลุกลนไปจนตาย
            อันร้อนกายไข้หนักพอรักษา     ใช้หยูกยาถูตรงก็คงหาย
แต่ร้อนจิตติดแน่นสุดแคลนคลาย           เป็นโรคร้ายเรื้อรังไม่ฟังยาฯ
"ไวทยาคุณ"
 
                 รสใดไม่เหมือนรสรัก      หวานนักหวานใดจะเปรียบได้
แต่มิได้เชยชมสมใจ                        ชมใดไม่เทียบเปรียบปาน
"ท้าวแสนปม"
 
คนงงหลงไขว่คว้า       จูบเงา
สุขก็เพียงฉายา     แต่สุขฯ
"เวนิสวานิช"
 
                 อันผู้ใดมรงธรรมเที่ยงสถิตย์      ชนย่อมอยากเป็นมิตรเป็นนักหนา
ความใจดีมีจิตมากเมตตา                          ย่อมแนะนำสัตว์นานาไว้วางใจฯ.
"สาวิตรี"
 
                จงดูแยบแบบโบราณท่านสอนไว้      ให้กอบกิจโดยไม่นึกประสงค์
ยิ่งบำเพ็ญเจตนาและพะวง                              ตรงอยู่ที่จะกอปกรณีย์
"ตามใจท่าน"
 
                   อันว่าผู้มั่นอยู่ในธรรม์      เหมือนมีเครื่องคุ้มกันกายาอุ่น
พระธรรมานิสงส์คงค้ำจุ้น                    บำรุงบุญบำรามบาปมลายฯ
"พระเกียรติยศ"
 
                  ปราชญ์สรรเสริญว่าธรรมเป็นล้ำเลิศ      สุดประเสริฐกว่าทรัพย์ทั้งน้อยใหญ่
ธรรมคุ้มผู้ประพฤติธรรมเป็นธรรมไซร์                    คงต้องได้ผลงามตามตำรา
"สาวิตรี"
 
นักพรตผู้ประพฤติสมปากสอน      เป็นผู้ประเสริฐเลิศสุนทรควรอภิวาทฯ.
"เวนิสวานิช"
 
              เป็นผู้หญิงแท้จริงแสนลำบาก      เป็นผู้ชายยิ่งยากกว่าหลายเท่า
หญิงต้องเจียมกายามาแต่เยาว์                 ชายต้องเฝ้าวิงวอนให้หล่อนรักฯ
"วิวาหพระสมุทร"
 
                 ผีมันหลอกช่างผีตามที่เถิด        อย่าให้เกิดหลอกกันเองเร่งเกรงขาม
คนสามัญมีปัญญาไม่เลวทราม                   ที่ควรถามเร่งถามดูลาดเลา
                เดินตามรอยผู้ใหญ่หมาไม่กัด     ไปพูดขัดเขาทำไมขัดใจเขา
ใครทำตึงเราต้องหย่อนผ่อนลงเอา               นักเลงเก่าเขาไม่หาญราญนักเลง
"ฝึกฝนตนเอง"
 
               มะโนนอบพระผู้       เสวยสวรรค์
แขนมอบถวายทรงธรรม์          เทอดหล้า
ดวงใจมอบเมียขวัญ                และแม่
เกียรติศักดิ์รักข้า                     มอบไว้แก่ตัว.
"ภาบิตนักรบโบราณ"
 
        มีความรู้จักนิ่ง      ยามควร
อีกรู้จักชวนผู้                เป็นปราชญ์
ให้สอนและสงวนคำ      อนุศาสน์ ไว้แล
นี้นับว่าฉลาดยิ่ง            กว่าพูดอวดดีฯ.
"ดุสิตสมิต"
 
       มีกายกำเนิดแล้ว       คงดับ
สูงต่ำไพร่ผู้ดี                    ไป่ปลอด
ถึงหากว่าทรัพย์มี             มวลมาก
ก็มิอาจรอดพ้น                จากเงื้อมมฤตยูฯ.
"ดุสิตสมิต"
 
             โชคชะตาเป็นอะไรฉันไม่รู้      มันแอบอยู่แห่งหนตำบลใด
ทั้งหน้าตารูปร่างเป็นอย่างไร                 ฉันยังไม่เคยพบสบสักที.
"ไทย"
 
              อันนักปราชญ์ราชครูเหมือนคูหา      เป็นที่อาศัยสกุลประยูรหงส์
จงสิงสู่อยู่ในห้องทองประจง                           กว่าจะทรงปีกกล้าถาทะยาน
              ขึ้นร่อนเร่เวหนให้คนเห็น      ว่าชาติเช่นหงสาศักดาหาญฯ.
"สุนทรภู่"
 
             เสือพีเพราะป่าปก
และป่ารกเพราะเสือยัง
            ดินเย็นเพราะหญ้าบัง
และหญ้ายังเพราะดินดีฯ.
"หนามยอกเอาหนามบ่ง"
 
             เมื่ออัคคีไหม้เรือน
แห่งเพื่อนบ้านนั้นไซร้
             เรือนสูเองก็ใกล้
เหตุร้ายปานกันฯ.
"ดุสิตสมิต"
 
                  น้ำฟ้าหนาวร้าวอกฟกไม่เหมือน      ขึ้งแค้นเพื่อนลืมคุณทุกสิ่งสรรพ์
ถึงฟ้าทำน้ำแข็งแกร่งฉะนั้น                             ไม่เย็นทันเทียมเพื่อนเลือนลืมมิตร.
"ตามใจท่าน"
 
               ถึงกลางวันสุริยันแจ่มประจักษ์      ไม่เห็นหน้านงลักษณ์ยิ่งมืดใหญ๋
ถึงราตรีมีจันทร์อำไพ                                 ไม่เห็นโฉมประโลมใจก็มืดมนต์
"วิวาหพระสมุทร"
 
             โอ้วันใดมิได้ประสบพักตร์       ราวหัวอกจะหักเสียให้ได้
หวามอุราน้ำตาก็ตกใน                         กลายเป็นไฟเผาร้อนรอนชีวีฯ.
"พญาราชวังสัน"
 
               ความรักเหมือนโรคา      บันดาลตาให้มืดมนต์
ไม่ยินและไม่ยล                             อุปสรรคใดๆ
               ความรักเหมือนโคถึก      กำลังคึกผิขังไว้
ก็โลดจากคอกไป                           บ่ ยอมอยู่ ณ ที่ขัง
                ถึงหากจะผูกไว้              ก็ดึงไปด้วยกำลัง
ยิ่งห้ามก็ยิ่งคลั่ง                              บ่ หวลคิดถึงเจ็บกายฯ.
"มัทนะพาธา"
 
                    อันนารีรูปงามทรามสวาท      ถ้าแม้ไร้มารยาทอันงามสม
คงไม่มีชายใดจะอบรม                             มีแต่ชมเพื่อพลางแล้วร้างไป.
"พระร่วง"
 
                ชนใดไม่มีดนตรีการ       ในสันดานเป็นคนชอบกลนัก
อีกใครฟังดนตรีไม่เห็นเพราะ           เขานั้นเหมาะคิดขบถอัปลักษณ์ฯ.
"เวนิสวานิช"
 
           มีสลึงพึงประจบให้ครบบาท      อย่าให้ขาดสิ่งของต้องประสงค์
จงมักน้อยกินน้อยค่อยบรรจง               อย่าจ่ายลงให้มากจะยากนานฯ.
"สุนทรภู่"
 
           การนินทากาเลเหมือนเทน้ำ      ไม่ชอกช้ำเหมือนเอามีดไปกรีดหิน
แม้องค์ปฎิมายังราคิน                           มนุษย์เดินดินหรือจะสิ้นคนนินทาฯ.
"สุนทรภู่"
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น