ความเจ็บปวดของวานนี้ที่ได้รับ
ความเจ็บปวดของวานนี้ที่ได้รับ
ความแตกดับของพรุ่งนี้ที่จะเห็น
กับวันนี้ที่คล้ายตายเย็นเย็น
เธอกลับเป็นเพื่อนผู้อยู่ใกล้ชิด
ความรู้สึกเท่าที่รู้ว่าอยู่ใกล้
แต่ก็เหมือนอยู่ไกลเพราะไร้สิทธิ์
และนับวันจะห่างเหินจนเกินคิด
ความมืดมิดของความหวังกำลังรอ
รื่นทั้งรสสดทั้งสีมาลีเอ๋ย
หอมระเหยแล้วก็หายเสียดายหนอ
เก็บแผลใจไว้เพื่อจำซ้ำให้พอ
เพราะแต่ต่อนี้ไปไม่มีแล้ว
เหลือแต่เพลงเสน่หาคืนฟ้าหนาว
คืนที่ดาวเรียงริ้วเป็นทิวแถว
ระยับราวพราวพรายประกายแพรว
ลำนำแว่วว่าคืนนี้มาลีลอย
ใช่ดอกฟ้าแต่ถ้าเป็นเช่นดอกฟ้า
วาสนาเราไม่ถึงจะพึงสอย
มิใช่ดินแต่เหมือนดินถวิลคอย
มาลีลอยเป็นมาลัยในอารมณ์
อยากฝากความคิดถึงซึ้งเสนาะ
แทนแพรเพลาะของหัวใจให้เธอห่ม
แต่ไร้ค่าเกินกั้นกันแดดลม
ที่พร่างพรมล่องเลยรำเพยพา
เปิดแผลเจ็บให้กับใจไว้อีกแผล
เป็นรอยแพ้ที่ยับเยินเกินรักษา
เลือดหยดหนึ่งจากหัวใจไหลผ่านตา
มอบเป็นค่าใช้จ่ายให้กับรัก
โอ้ทั้งร้อนทั้งหนาวทั้งร้าวรวด
ทั้งเจ็บปวดทั้งร้าวรานทั้งหาญหัก
หวังเธอเหมือนเพื่อนซึ่งได้พึ่งพัก***
ทั้งสูงศักดิ์ทั้งสดใสในศรัทธา
ทิ้งอดีตอันมากมายไว้ข้างหลัง
หวังความหวังหวังที่มีหวังกว่า
ลอยชีวิตกลางทะเลของเวลา
เสน่หาของความหวังพังทะลาย
เปิดแผลเจ็บให้กับใจไว้คิดถึง
กับหยดหนึ่งของน้ำค้างกลางเดือนฉาย
วันเวลาบรรเลงเพลงความตาย
เฮือกสุดท้ายลมหายใจใต้แสงจันทร์
มองตัวเองด้วยเข้าข้างอย่างหยิ่งหยิ่ง
แท้ที่จริงชื่อเสียงเพียงความฝัน
เมื่อทางเดินข้างหน้าคือผาชัน
ทางแปรผันทางสุดท้ายทอดสายมา
ประสบการณ์ความรอบคอบความรอบรู้
พอเป็นผู้ประจักษ์แจ้งแห่งปัญหา
เห็นเหตุการณ์ทั้งปวงด้วยดวงตา
รู้คุณค่าลุล่วงด้วยดวงใจ
เมื่ออยู่ใกล้กลัวพลั้งพลาดหวาดผวา
ครั้นแรมราพรึงพรั่นยิ่งหวั่นไหว
โอ้ความรักคงเป็นเหมือนเช่นไฟ
ใกล้หรือไกลก็ร้อนหนาวได้เท่ากัน
ราชพฤกษ์ชูช่อล้อลมผ่าน
พลิ้วดอกบานย้อยระย้าหน้าคิมหันต์
ผ่านการบินด้วยปีกทองของคืนวัน
ถึงวสันต์เหลือใบให้เราคิด ๚
ความเจ็บปวดของวานนี้ที่ได้รับ
ความแตกดับของพรุ่งนี้ที่จะเห็น
กับวันนี้ที่คล้ายตายเย็นเย็น
เธอกลับเป็นเพื่อนผู้อยู่ใกล้ชิด
ความรู้สึกเท่าที่รู้ว่าอยู่ใกล้
แต่ก็เหมือนอยู่ไกลเพราะไร้สิทธิ์
และนับวันจะห่างเหินจนเกินคิด
ความมืดมิดของความหวังกำลังรอ
รื่นทั้งรสสดทั้งสีมาลีเอ๋ย
หอมระเหยแล้วก็หายเสียดายหนอ
เก็บแผลใจไว้เพื่อจำซ้ำให้พอ
เพราะแต่ต่อนี้ไปไม่มีแล้ว
เหลือแต่เพลงเสน่หาคืนฟ้าหนาว
คืนที่ดาวเรียงริ้วเป็นทิวแถว
ระยับราวพราวพรายประกายแพรว
ลำนำแว่วว่าคืนนี้มาลีลอย
ใช่ดอกฟ้าแต่ถ้าเป็นเช่นดอกฟ้า
วาสนาเราไม่ถึงจะพึงสอย
มิใช่ดินแต่เหมือนดินถวิลคอย
มาลีลอยเป็นมาลัยในอารมณ์
อยากฝากความคิดถึงซึ้งเสนาะ
แทนแพรเพลาะของหัวใจให้เธอห่ม
แต่ไร้ค่าเกินกั้นกันแดดลม
ที่พร่างพรมล่องเลยรำเพยพา
เปิดแผลเจ็บให้กับใจไว้อีกแผล
เป็นรอยแพ้ที่ยับเยินเกินรักษา
เลือดหยดหนึ่งจากหัวใจไหลผ่านตา
มอบเป็นค่าใช้จ่ายให้กับรัก
โอ้ทั้งร้อนทั้งหนาวทั้งร้าวรวด
ทั้งเจ็บปวดทั้งร้าวรานทั้งหาญหัก
หวังเธอเหมือนเพื่อนซึ่งได้พึ่งพัก***
ทั้งสูงศักดิ์ทั้งสดใสในศรัทธา
ทิ้งอดีตอันมากมายไว้ข้างหลัง
หวังความหวังหวังที่มีหวังกว่า
ลอยชีวิตกลางทะเลของเวลา
เสน่หาของความหวังพังทะลาย
เปิดแผลเจ็บให้กับใจไว้คิดถึง
กับหยดหนึ่งของน้ำค้างกลางเดือนฉาย
วันเวลาบรรเลงเพลงความตาย
เฮือกสุดท้ายลมหายใจใต้แสงจันทร์
มองตัวเองด้วยเข้าข้างอย่างหยิ่งหยิ่ง
แท้ที่จริงชื่อเสียงเพียงความฝัน
เมื่อทางเดินข้างหน้าคือผาชัน
ทางแปรผันทางสุดท้ายทอดสายมา
ประสบการณ์ความรอบคอบความรอบรู้
พอเป็นผู้ประจักษ์แจ้งแห่งปัญหา
เห็นเหตุการณ์ทั้งปวงด้วยดวงตา
รู้คุณค่าลุล่วงด้วยดวงใจ
เมื่ออยู่ใกล้กลัวพลั้งพลาดหวาดผวา
ครั้นแรมราพรึงพรั่นยิ่งหวั่นไหว
โอ้ความรักคงเป็นเหมือนเช่นไฟ
ใกล้หรือไกลก็ร้อนหนาวได้เท่ากัน
ราชพฤกษ์ชูช่อล้อลมผ่าน
พลิ้วดอกบานย้อยระย้าหน้าคิมหันต์
ผ่านการบินด้วยปีกทองของคืนวัน
ถึงวสันต์เหลือใบให้เราคิด ๚
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น