วันอาทิตย์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2555

หน่วงRoom 39 (รูม 39) - หน่วง [MV Full HD]


 ห น่ ว ง อ่ะ
เพราะดีนะคร้า
********* ทุกๆ ครั้งที่เธอนั้นส่งรอยยิ้มเข้ามาทักทาย 
ทุกๆ ครั้งที่เธอนั้นส่งสายตาเข้ามาหากัน 
ทำให้ฉันนั้นแทบจะขึ้นสวรรค์ 
ทั้งที่ยังยืนอยู่ตรงนั้น 
(แทบจะขึ้นสวรรค์ทั้งที่ยืนอยู่) 

ทุกๆ ครั้งที่เธอนั้นคอยส่งเสียง และทุกข้อความ 
ทุกๆ ครั้งที่เธอนั้นคอยเฝ้าถาม และเป็นห่วงฉัน 
ทำให้ฉันนั้นแทบจะดิ้น ดิ้นตายอยู่ตรงนั้น 

แต่ติดที่ฉันนั้นไม่ใช่เพียงคนเดียว 
(เพียงคนเดียว เพียงคนเดียว) 
ที่ได้รับท่าทีที่แสนดีเหล่านั้น 

มันจึงเป็นความรัก ที่ไม่ถึงกับสุข 
เป็นความทุกข์ ที่ไม่ถึงกับเศร้า 
เป็นความรัก ที่ทั้งซึ้งทั้งเหงาอยู่ด้วยกัน 
(เป็นความซึ้งและความเงียบเหงาอยู่ด้วยกัน) 

จึงเป็นความรักที่มาพร้อมความอึดอัด 
และเป็นความรักที่ไม่เคยเห็นภาพชัดๆ สักวัน 
มีแค่ความรู้สึกครึ่งๆ กลาง ๆ 
ข้างในใจของฉัน เพียงคนเดียว 

ทุกๆ ครั้งที่มือของเรานั้น ได้มาสัมผัส 
ทุกๆ ครั้งที่เธอนั้น บอกความลับให้ฉันฟัง 
รู้ไหมว่าหัวใจของฉัน มันแทบละลายอยู่ตรงนั้น 

แต่ติดที่ฉันนั้นไม่ใช่เพียงคนเดียว 
(เพียงคนเดียว เพียงคนเดียว) 
ที่ได้รับท่าทีที่แสนดีเหล่านั้น 

มันจึงเป็นความรัก ที่ไม่ถึงกับสุข 
เป็นความทุกข์ ที่ไม่ถึงกับเศร้า 
เป็นความรัก ที่ทั้งซึ้งทั้งเหงาอยู่ด้วยกัน 
(เป็นความซึ้งและความเงียบเหงาอยู่ด้วยกัน) 

จึงเป็นความรักที่มาพร้อมความอึดอัด 
และเป็นความรักที่ไม่เคยเห็นภาพชัดๆ สักวัน 
มีแค่ความรู้สึกครึ่งๆ กลาง ๆ 
ข้างในใจของฉัน เพียงผู้เดียว 

ฉันไม่รู้ ระหว่างเรานั้นคืออะไร 
และไม่รู้ต้องเป็นอย่างนี้ ไปอีกนานแค่ไหน 

มันจึงเป็นความรัก ที่ไม่ถึงกับสุข 
เป็นความทุกข์ ที่ไม่ถึงกับเศร้า 
เป็นความรัก ที่ทั้งซึ้งทั้งเหงาอยู่ด้วยกัน 
(เป็นความซึ้งและความเงียบเหงาอยู่ด้วยกัน) 

จึงเป็นความรักที่มาพร้อมความอึดอัด 
และเป็นความรักที่ไม่เคยเห็นภาพชัดๆ สักวัน 
มีแค่ความรู้สึกครึ่งๆ กลาง ๆ 

จึงเป็นความรัก ที่ไม่ถึงกับสุข 
เป็นความทุกข์ ที่ไม่ถึงกับเศร้า 
เป็นความรัก ที่ทั้งซึ้งทั้งเหงาอยู่ด้วยกัน 

จึงเป็นความรักที่มาพร้อมความอึดอัด 
และเป็นความรักที่ไม่เคยเห็นภาพชัดๆ สักวัน 
มีแค่ความรู้สึกครึ่งๆ กลาง ๆ 
ข้างในใจของฉัน เพียงผู้เดียว 
อึดอัดในใจของตัวฉันเพียงผู้เดียว แค่คนเดียว

... 'ความรัก' ในปรัชญาชีวิต ของ คาลิล ยิบราน


ความรักไม่ให้สิ่งอื่นใดนอกจากตนเอง และก็ไม่รับเอาสิ่งใดนอกจากตนเอง ความรักไม่ครอบครอง และก็ไม่ยอมให้ถูกครอบครอง เพราะความรักนั้นพอเพียงแล้วสำหรับตอบความรัก'

คาลิล ยิบราน (Kahlil Gibran) นักเขียนและกวีชาวเลบานอน ผู้มีชื่อเสียงกระฉ่อนโลก กล่าวถึงความรักด้วยภาษางดงามสุดซึ้งไว้ในหนังสือ The Prophet หรือ "ปรัชญาชีวิต" ที่แปลโดย อ.ระวี ภาวิไล

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ความรัก

เมื่อความรักร้องเรียกเธอจงตามมันไป
แม้ว่าทางของมันนั้นจะขรุขระและชันเพียงไร
และเมื่อปีกของมันโอบรอบกายเธอ จงยอมทน
แม้ว่าหนามแหลมอันซ่อนอยู่ในปีกนั้นจะเสียดแทงเธอ
และเมื่อมันพูดกับเธอ จงเชื่อตาม
แม้ว่าเสียงของมันจะทำลายความฝันของเธอ
ดังลมเหนือพัดกระหน่ำสวนดอกไม้ให้แหลกลาญไปฉะนั้น

เพราะแม้ขณะที่ความรักสวมมงกุฎให้เธอ มันก็จะตรึงกางเขนเธอ
และขณะที่มันให้ความเติบโตแก่เธอนั้น มันก็จะตัดรอนเธอด้วย
แม้ขณะเมื่อมันไต่ขึ้นไปสู่ยอดสูง และลูบไล้กิ่งก้านอันแกว่งไกวในแสงอรุณ
แต่มันก็จะหยั่งลงสู่รากลึก และเขย่าถอนตรงที่ยึดมั่นอยู่กับดินด้วย

ความรักจะรวบรวมเธอเข้าดังฝักข้าวโพด
มันจะแกะเธอออกจนเปลือยเปล่า
แล้วมันจะร่อนเพื่อให้เธอหลุดจากเปลือก
มันจะบดเธอจนเป็นผงขาว
แล้วก็จะขยำจนเธออ่อนเปียก
แล้วมันก็จะนำเธอเข้าสู่ไฟอันศักดิ์สิทธิ์ของมัน
เพื่อว่าเธอจะได้กลายเป็นอาหารทิพย์ของพระเป็นเจ้า

ความรักจะกระทำสิ่งทั้งหมดนี้แก่เธอ
เพื่อว่าเธอจะได้หยั่งรู้ความลับของดวงใจเธอเอง
และด้วยความรู้นั้นเธอก็จะได้เป็นส่วนหนึ่งของดวงใจแห่งชีวิตอมตะ
แต่ถ้าหากด้วยความกลัว เธอมุ่งแต่แสวงหาความสงบสุขและความสำราญจากความรัก
ก็จะเป็นการดีกว่าที่เธอควรจะปกคลุมความเปลือยเปล่าของตนและหลีกหนีออกไปเสียจากลานบด
ไปสู่โลกอันไร้ฤดูกาล ที่ซึ่งเธอจะหัวเราะก็ไม่เต็มที่และจะร้องไห้ก็ไม่เต็มที่

ความรักไม่ให้สิ่งอื่นใดนอกจากตนเอง
และก็ไม่รับเอาสิ่งใดนอกจากตนเอง
ความรักไม่ครอบครอง และก็ไม่ยอมให้ถูกครอบครอง
เพราะความรักนั้นพอเพียงแล้วสำหรับตอบความรัก

เมื่อเธอรัก อย่าได้พูดว่า
พระผู้เป็นเจ้าอยู่ในดวงใจเรา แต่ควรพูดว่าเราอยู่ในดวงใจพระผู้เป็นเจ้า
และอย่าได้คิดว่า เธอสามารถนำแนวทางของความรักได้ เพราะถ้าความรักพบว่าเธอมีคุณค่าพอแล้วก็จะเป็นผู้นำแนวทางของเธอเอง
ความรักไม่มีปรารถนาสิ่งอื่นใด นอกจากที่จะทำตนเองให้สมบูรณ์
แต่ถ้าหากเธอรัก และจำต้องมีความปรารถนา ก็ขอให้ความปรารถนาของเธอจงเป็นดังนี้

เพื่อจะละลายและไหลดังธารน้ำ ซึ่งส่งเสียงเพลงกล่อมราตรี
เพื่อจะเรียนรู้ความปวดร้าว อันเกิดแต่ความอ่อนโยนละมุนละไมเกินไป
เพื่อจะต้องบาดเจ็บ ด้วยความเข้าใจในความรักของตนเอง
และเพื่อจะยอมให้เลือดหลั่งไหลด้วยความเต็มใจและปราโมทย์
เพื่อจะตื่นขึ้น ณ รุ่งอรุณด้วยดวงใจอันปิติและขอบคุณความรักอีกวันหนึ่ง
เพื่อจะหยุดพัก ณ ยามเที่ยง และเพ่งพินิจความสุขซาบซึ้งของความรัก
เพื่อจะกลับบ้าน ณ ยามพลบค่ำด้วยความรู้สึกสำนึกคุณ

และเพื่อจะหลับไปพร้อมกับคำสวดมนต์ภาวนาสำหรับคนรักในดวงใจ
และเพลงสรรเสริญบนริมฝีปากของเธอ

*****************************************



ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
www.tamdee.net

..อวตารที่ไม่ใช่อวตาร

* นำเสนออวตาร 3 แบบ
8 ม.ค.52 หลายปีมานี้ได้รับมอบหมายจาก หัวหน้างานประชาสัมพันธ์ และ คณบดีคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ให้เขียนบทความลงหนังสือพิมพ์ฅนเมืองเหนือ เพื่อเผยแพร่ประสบการณ์ให้ชาวลำปางได้ร่วมเรียนรู้จากมุมมองของนักวิชาการในสถาบันการศึกษา ประกอบกับเป็นโยบายของ ท่านอธิการบดี ที่ส่งเสริมให้บุคลากรได้มีงานเขียนในสื่อท้องถิ่นอย่างต่อเนื่อง บทความที่ 225 นี้เป็นงานที่เขียนในเวลางาน และเสร็จในการเขียนรอบเวลาเดียว จึงตัดสินใจ post เข้า blog ครับ กลับบ้านจะได้ clear งานอื่น
ไอทีในชีวิตประจำวัน # 225 อวตารที่ไม่ใช่อวตาร     ปัจจุบันคำว่า อวตาร (Avatar) ถูกใช้ในหลายโอกาส ทั้งในชื่อภาพยนตร์ แสดงเป็นตัวแทนในเว็บไซต์ หรือการแบ่งภาคของเทพ ซึ่งต้นกำเนิดของคำนี้มาจากความเชื่อของศาสนาฮินดู ว่า อวตารคือการแบ่งภาคของเทพในศาสนามาเกิดบนโลกมนุษย์ อาจแบ่งมาเกิดเป็นมนุษย์หรือสัตว์ก็ได้ เพื่อมาทำหน้าที่บรรเทาความเดือดร้อนของมนุษย์ ส่วนความเชื่อของชาวพุทธนิกายวัชรยานมีความเชื่อว่าพระพุทธเจ้าและพระโพธิสัตว์อวตารหรือแบ่งภาคได้เช่นกัน อาทิ ชาวพุทธในทิเบตเชื่อว่า ทะไล ลามะ เป็นอวตารของพระอวโลกิเตศวร และ ปันเชน ลามะ เป็นอวตารของพระอมิตาภะพุทธะ เป็นต้น
     ภาพยนตร์เรื่องอวตาร 2552 แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาทางเทคโนโลยีมัลติมีเดีย และจินตนาการทางวิทยาศาสตร์ในการย้ายจิตวิญญาณจากร่างหนึ่งไปสู่อีกร่างหนึ่งเสมือนการเข้าสิง หรือการถอดร่างออกไปควบคุมร่างใหม่ หรือร่างอวตาร โดยร่างเดิมไม่มีความรู้สึกนึกคิดหลงเหลืออยู่ เมื่อปิดเครื่องส่งถ่ายจิตวิญญาณจะทำให้ดึงจิตวิญญาณจากร่างอวตารกลับมายังร่างจริงในทันที แนวคิดนี้ต่างกับอวตารในความเชื่อทางศาสนาในประเด็นที่เทพสามารถแบ่งพลังเพียงส่วนหนึ่งไปเป็นร่างใหม่ที่มีความรู้สึกนึกคิดของตนเอง แต่ในภาพยนตร์คือการย้ายจิตวิญญาณไปยังร่างใหม่
     คำว่า Avatar ที่เราพบในเว็บไซต์เป็น อวตารคอมพิวเตอร์ คือ สัญลักษณ์แสดงตัวตนของเจ้าของ พบได้ในเว็บไซต์เครือข่ายสังคม เกมคอมพิวเตอร์ เว็บบอร์ด มีลักษณะเป็นภาพไอคอน ภาพการ์ตูน ภาพถ่าย หรือภาพเสมือนจริง ในความหมายนี้อวตารเป็นเพียงตัวแทนแสดงตน แสดงความรู้สึก รูปลักษณ์ .....หรือลักษณะที่เจ้าของอวตารต้องการสื่อสาร... ไปพร้อมกับบทบาท บทความ บล็อก สารสนเทศ หรือเว็บไซต์ ซึ่งเป็นตัวแทนที่ขาดการเชื่อมโยงทางจิตวิญญาณกับเจ้าของอย่างแท้จริง เพราะหากข้อมูลลบ หรืออวตารถูกเปลี่ยน เจ้าของจะไม่รู้ถึงการเปลี่ยนเหล่านั้นแต่จะทราบได้ก็ต่อเมื่อมีใครแจ้งให้ทราบหรือกลับมาเปิดดูอีกครั้งเท่านั้น ก็มีคำถามว่าท่านมีอวตารหรือเข้าใจความต่างของอวตารทั้ง 3 แบบว่าอย่างไร
http://www.thaiall.com/opinion/readonly.php

วันจันทร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2555

..ช่วงชีวิต

*********** ช่วงชีวิต เปรียบได้เช่น ใบไม้ร่วง
ดวงตาลวง เร้ากิเลส ให้หลงใหล
การกระทำ ย่อมกำหนด ความเป็นไป
เมื่อถึงครา ก็ลาไกล กลายเป็นดิน
แต่ความดี ไม่เคยตาย หรือหายสูญ
ยังเทิดทูน และกล่าวขวัญ  มิรู้หาย
หากทำเลว เมื่อถึงคราว ใกล้สิ้นใจ
ก็คงไร้ คนอาลัย ให้เอ่ยนาม
แม้นไม่ได้ ดีที่สุด อย่าหยุดทำ
แม้นที่ทำ คนไม่เห็น อย่ากังขา
ทำความดี ปิดทองหลัง พระปฏิมา
ก็ดีกว่า มัวทำชั่ว ทุกคราไป
ทำดีแล้ว ย่อมได้ดี อย่าสงสัย
ถึงแม้ไม่ เห็นผลทัน ที่คอยหา
แต่ความดี จะยังอยู่ ในอุรา
ซึ่งนำพา ความสุขใจ ไม่บิดเบือน
แค่คิดชั่ว ใจก็ทุกข์ แล้วครึ่งหนึ่ง
พอทำชั่ว อีกครึ่งหนึ่ง ก็หมองหมาง
ตกอยู่ใน กลอุบาย ของหมู่มาร
กิเลสผลาญ เผาใจสูญ จนสิ้นไป

ยังไม่สาย จะกลับตัว ฟื้นจากผิด
ให้ลองคิด ถึงสิ่งดี ที่ควรหมาย
ให้ลองพูด แต่สิ่งดี เป็นศรีกาย
ให้ลองทำ ดีดั่งหมาย คลายทุกข์ตรม

.ข้อคิดดี ๆ เพื่อชีวิต

-*-*-**/*/* นึกว่าเสมอว่าการโกรธ 1 นาที จะทำให้ความทุกข์อยู่กับเธอ 3 ชั่วโมง

* ถ้ายิ้มให้กับคนที่อยู่ในกระจก รับรองว่าเค้าต้องยิ้มตอบกลับมาทุกครั้งแน่!

* หลับตานิ่งๆ ซัก 3 นาที เมื่อรู้สึกว่าอะไรตรงหน้ามันช่างยากจัง

* ระหว่างแปรงฟันถ้าฮัมเพลงด้วยไปจนจบจะทำให้ฟันสะอาดขึ้น 2 เท่าแน่ะ

* เคี้ยวข้าวแต่ละคำให้ช้าลง จากที่รสชาติธรรมดาก็จะอร่อยขึ้นเยอะ

* ควรหัดพูดคำว่า ไม่เป็นไร ให้เคยปากมากกว่าการพูดคำว่า จะเอายังไง
* สัตว์เลี้ยงที่บ้านเก็บความลับเก่ง เรื่องที่ไม่อยากให้คนอื่นรู้จึงเล่าให้มันฟังได้

* อาหารที่ไม่ชอบกินตอนเด็ก ลองตักเข้าปากอีกที เผื่อจะกลายเป็นอาหารจานโปรด

* เขียนชื่อคนที่เธอเกลียดใส่กระดาษแล้วฉีกทิ้งความเกลียดจะเบาบางลงเรื่อยๆ

* ให้ปล่อยน้ำตาไหลโดยไม่ต้องเช็ด เมื่อน้ำตาแห้ง จะดูไม่ออกว่าเพิ่งร้องไห้มา

* ก่อนจะซื้ออะไรก็ตาม ต้องคิดหาประโยชน์ของมันให้ได้อย่างน้อย 3 ข้อก่อน

* ถึงเสื้อกางเกงในตู้จะมีอยู่น้อย แต่ถ้าสลับกันไปเรื่อยๆก็ดูเหมือนจะเยอะขึ้น

* เลือกให้ของขวัญคนที่ไม่เคยได้ ดีกว่าคนได้เยอะจนจำชื่อคนให้ไม่หมด

* ในวันที่รู้สึกเศร้าๆ เหงาๆ เดินไปซื้อดอกไม้ให้ตัวเองซักดอกแล้วจะดีขึ้น

* แอบรักใครซักคน ยังไงก็ดีกว่าไม่เคยรู้ว่าความรู้สึก รัก เป็นยังไง

* ถึงจะไม่ได้ออกไปไหน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าแต่งตัวสวยๆ หล่อๆ ไม่ได้นี่

* พยายามอ่านหนังสือทุกชนิดในมือให้จบเล่มอาจไม่สนุกแต่มีประโยชน์แฝงอยู่

* วันที่ตื่นเช้าๆ ให้บิดขี้เกียจนานที่สุดเท่าที่จะทำนานได้ ถ้าขี้เกียจออกกำลังกายน่ะ

* รู้รึเปล่าว่าดอกไม้ที่บานอยู่กับต้น ยังไงก็อยู่ได้นานกว่าบานในแจกัน

* ทะเลาะกับใครๆ พร้อมรอยยิ้ม เรื่องราวจะจบง่ายกว่าที่คิดเยอะ

* เอารูปตัวเองตอนเด็กๆ มาดูตอนเครียดอารมณ์จะดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ

* พยายามหาข้อบกพร่องของคนที่เธออิจฉาอย่างน้อยก็มีข้อปลอบใจตัวเองบ้าง!

* โทรไปหาแฟนแล้วพูดแค่คำเดียวว่า คิดถึง พอวางสายแล้วต้องยิ้มทั้งคู่

* ในวงสนทนาถ้ายังนึกไม่ออกว่าจะคุยอะไรรอยยิ้มช่วยแก้สถานการณ์ได้

* ค่อยๆ เดินทอดน่องแบบสบายๆ ในวันที่ไม่มีธุระให้ต้องไปสะสาง

* ซื้อของฝากทุกคนในบ้าน ก็เหมือนกับการซื้อของฝากตัวเองนั่นแหละ

* จะหน้าตายังไงก็แล้วแต่ ถ้าทิ้งขยะลงพื้นก็กลายเป็นขี้เหร่ได้ทันตาเห็น

* นั่งสมาธิให้นานๆ และบ่อยๆ ก็ทำให้ผิวสวยขึ้นได้เหมือนกัน

* นอกจากตอนที่เคี้ยวข้าวแล้ว ไม่ว่าก่อนหรือหลังกินก็หัวเราะได้อร่อย

* จินตนาการถึงเรื่องที่อยากมีหรืออยากเป็นคือยานอนหลับอย่างหนึ่ง

* อ่านหนังสือหรือการ์ตูนโปรดเป็นการเติมน้ำมันให้ตัวเองอย่างดี

* ยังไม่มีใครเคยแย้งว่า การอาบน้ำไม่สามารถคลายเครียดได้จริงๆ

* ก่อนจะด่าใครให้นับ 1 ถึง 50 เผลอๆ อาจจะไม่อยากด่าแล้วก็ได้

* ไม่ต้องทำยังไงกับเพื่อนที่หักหลังก็แค่อย่าเรียกเค้าว่าเพื่อนก็พอแล้ว

* รักครั้งแรกส่วนใหญ่ก็อกหักทั้งนั้น น่าจะดีใจที่ไม่แปลกกว่าชาวบ้านเค้า

* การที่ทำของหายอาจเป็นการใช้หนี้ของชาติที่แล้วให้คนอื่นที่เก็บมันได้

* ถึงจะไม่มีเงินอยู่ในกระเป๋าซักบาท ยังดีกว่าไม่มีเสื้อผ้าให้ใส่ตั้งเยอะ

* หนี้ที่โดนเบี้ยวไป ทำให้เรารู้จักใครบางคนดีขึ้นโดยไม่ต้องใช้เวลามาก

* คนอื่นไม่เข้าใจเราไม่เห็นแปลก ในเมื่อเราก็ไม่เข้าใจคนอื่นเหมือนกัน

* ไม่ต้องช่วยใครๆ ด่าตัวเอง ถ้าสิ่งที่ทำไปแน่ใจว่าพยายามเต็มที่แล้ว

* วิ่งให้เหนื่อยมากๆ ความโกธรจะได้ถูกขับออกมาพร้อมกับเหงื่อ

* ถ้ากลัวจะนอนฝันร้าย สวดมนต์ก่อนนอนเหมือนตอนเด็กๆ ดูสิ

* ของฝากสำหรับคนห่างไกล คือการโผล่ไปเซอร์ไพรส์ด้วยตัวเอง

* เพลงจังหวะมันๆ ทำให้คนฟังกระปรี้กระเปร่าได้โดยอัตโนมัติ

* อย่าเดาว่าอะไรอยู่ในกล่องของขวัญ แล้วจะไม่รู้จักคำว่าผิดหวัง*-**

Credit : TeeNee.com

วันศุกร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

....แง่คิดดีๆ ๐("-")๐


โลกกลมๆ ใบนี้ไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ

ของฟรีไม่เคยมี ของดีไม่เคยถูก

อยู่ให้ไว้ใจ ไปให้คิดถึง

คนเราต้องเดินหน้า เวลายังเดินหน้าเลย

ไม่ต้องสนใจว่าแมวจะสีขาวหรือดำ ขอให้จับหนูได้ก็พอ

ยิ่งมีใจศรัทธา ยิ่งต้องมีสายตาที่เยือกเย็น

ในโลกกลมๆใบนี้ไม่มีคำว่าแน่นอน

คนเราเมื่อม้าตายก็ต้องลงเดิน

ท้อแท้ได้แต่อย่าท้อถอย
 
อิจฉาได้แต่อย่าริษยา

พักได้แต่อย่าหยุด

เหตุผลของคนคนหนึ่งอาจไม่ใช่ของอีกคนหนึ่ง 

ถ้าไม่ลองก้าว จะไม่มีวันรู้เลยว่า ข้างหน้าเป็นอย่างไร

หนทางอันยาวไกลนับหมื่นลี้ ต้องเริ่มต้นด้วยก้าวแรกเสมอ

ปัญหาทุกอย่างอยู่ที่ตัวเราทั้งสิ้น

จะเห็นคุณค่าของความอบอุ่น เมื่อผ่านความเหน็บหนาวมาแล้ว

อันตรายที่สุดคือการคาดหวัง

เริ่มต้นดีแล้ว ลงท้ายก็ต้องดีด้วย

อย่ายอมแพ้ถ้าไม่ได้พยายามอย่างเต็มที่

จงใช้สติ อย่าใช้อารมณ์

เบื้องหลังความเข้มแข็ง สมควรมีความอ่อนโยน

ไม่มีคำว่าบังเอิญในเรื่องของความรัก มีแต่คำว่าตั้งใจ

ยินดีกับสิ่งที่ได้มา และยอมรับกับสิ่งที่เสียไป

หลังพายุผ่านไป ฟ้าย่อมสดใส

หลังผ่านปัญหา จะรู้ว่าปัญหานั้นเล็กนิดเดียว

ไม่เป็นขุนนางน่ะได้ แต่ไม่เป็นคนไม่ได้

มีแต่วันนี้ที่มีค่า ไม่มีวันหน้า วันหลัง
 
เมื่อวานก็สายเกินแก้

พรุ่งนี้ก็สายเกินไป

อย่าหวังว่าจะได้รับความรักจากคนที่คุณรัก

เพราะคนที่คุณรักไม่ได้รักคุณหมดทุกคน

เพื่อนทั่วไปไม่เห็นคุณร้องไห้

เพื่อนแท้มีหัวไหล่ไว้คอยซับน้ำตาให้

เพื่อนทั่วไปถือขวดไวน์ติดตัวมางานปาร์ตี้ของคุณ

เพื่อนแท้จะมาแต่หัววันเพื่อช่วยเตรียมงาน

เพื่อนทั่วไปคาดหวังให้คุณเคียงข้างเขาเสมอ 

เพื่อนแท้คาดหวังที่จะอยู่เคียงข้างคุณ ตลอดไ

วันอังคารที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

เหงา และ ฝันดี


***** ขอเธอไว้ในความฝัน
อยากให้ความคิดถึงของฉันผูกพันเธอไว้ที่นี่
ขอเป็นความรักของฉันได้ไหม ที่ติดตามเธอไปทุกวินาที
ขอเป็นความห่วงใยที่ฉันมี
โอบกอดเธอให้ฝันดี....ตลอดคืน

ข้อความดีๆ ในการ์ดสีหวาน
เก็บไว้มานานเอาไว้อ่าน..ยามเหงา
มองฟ้าสีอ่อนแล้ว..นึกถึงเรา
ภาพดีๆ วันใสๆ ในวันเก่าก็..ย้อนมา
แค่หนึ่งข้อความของเธอ ว่า..ห่วงใย
อ่านกี่ครั้งก็ยิ้มได้..อย่างเริ่งร่า
อบอุ่นหัวใจจนระบายสี..ในแววตา
คิดถึงเธอทีไรก็รู้สึกได้ว่า"ฉันรักเธอ"

ได้ทักทายได้เจอหน้า
ได้ถามความเป็นมาอยู่เสมอ
ได้พูดคุย ได้อยู่ใกล้ ได้พบเจอ
ได้รับรู้ว่าเธอยังสุขใจ
กินนอนหลับฝันดีแล้วนะคืนนี้ 
จะฝันว่ามีวัน ดี ดี มีเธอร่วมอ่อนไหว
ถึงจะเป็นไปได้แค่ความฝัน
ที่ความเป็นจริงไม่มีอะไร
ก็ยังดี กว่าไม่มีใครไว้ในใจให้แอบอิง 

สุดเส้นสายปลายทางแห่งความเหงา
ยังว่างเปล่าโดดเดี่ยวและสับสน
ไม่เหลือใครร่วมทางแม้สักคน
สู้บนหนทางเปลี่ยวอย่างเดียวดาย

อยากจะมี เธอทุกครั้ง ยามเงียบเหงา
อยากจะมี เธอเป็นเงา ทุกแห่งหน
อยากจะมี เธอข้างกาย ยามร้อนรน
อยากจะมี เพียงสักคน คอยปลอบใจ
แต่ไม่มี เธอสักครั้ง ยามเงียบเหงา
แต่ไม่มี เธอแม้เงา เศร้าหงั่นไหว
แต่ไม่มี เธอข้างกาย ยามทุกข์ใจ
แต่ไม่มี เหลือสิ่งใด ให้กลับมา
คงมีเพียง ความรัก ยังคงมั่น
คงมีเพียง ความฝัน ความห่วงหา
คงมีเพียง ภาพของเธอ เดินจากลา
คงมีเพียง หยดน้ำตา เต็มหัวใจ
แต่ยังมี ชีวิต ที่เหลืออยู่
เตือนให้รู้ สึกตัว อย่าหลงใหล
บอกตัวเอง เธอจากไป ไกลแสนไกล
เรายังมี หนทางใหม่ ให้เลือกเดิน

จันทร์เอาดาวไปซ่อนไว้ตรงไหนของขอบฟ้า
หลายคืนแล้วนะที่มองหา...แต่ไม่เห็น
ได้โปรดเถิดดวงจันทร์...ฉันจำเป็น
อย่าซ่อนเร้นดวงดาว...เอาไว้เลย
ช่วยเอาออกมา...ให้ฉันนับ
หัวใจถูกความเหงาจับ...จันทร์ยังเฉย
ฟ้ากว้าง ๆ แต่ไม่พราวพร่าง...ซะเลย
จันทร์เจ้าเอ๋ย...ไม่เหงาบ้าง...หรืออย่างไร

เจ้าดวงจันทร์คืนนี้เจ้าดูเศร้านัก
หรือคนรักของเจ้านั้นห่างหาย
แต่ยังดีเจ้ามีดาวอยู่ข้างกาย
ไว้ปลอบใจหากเจ้าเหงา..ยามราตรี
ดูตัวข้า..ก่อนซิ..เจ้าจันทร์น้อย
ได้แต่คอยข่าวคราวคนรักข้า
หลายวันผ่านไปไม่กลับมา
ปล่อยให้ข้าห่วงหาโดยลำพัง
เจ้ายังมีเหล่าดวงดาวคอยปลอบใจ
แต่ตัวข้าไม่มีใครคอยปลอบขวัญ
มีน้ำตา..ไหลมาอยู่เป็นเพื่อนกัน
เห็นหรือยังข้า น่าสงสาร..กว่าใครใคร

มีถ้อยคำ บางคำอยากให้รู้
I miss you everytime แปลออกไหม
เธอ Genious ออกอย่างนี้คงเข้าใจ
Say goodnight ให้คืนนี้ฝันดีเอย

ถ้าอ่านหนังสือตอนนี้ขอให้ได้เกรด A
ถ้าเป็นเด็กเกเรขอให้ตุ๊กแกกินตับ
ถ้าไม่คิดถึงกันขอให้คืนนี้นอนไม่หลับ
ถ้าคืนนี้ส่งความคิดถึงกลับขอให้หลับฝันดี

ดอกคูณคูณดอกอยู่เต็มต้น
เหมือนแกล้งคูณความหมองหม่นให้คนผิด
คูณอาทรห่วงหาเป็นยาพิษ
ฆ่าให้ตายทีละนิดทีละนิดเมื่อคิดถึง
เป็นความจริงที่เหมือนฝันอันยิ่งใหญ่
เธอผ่านมาให้ผูกพันในวันหนึ่ง
คนหัวใจแตกหักได้พักพึ่ง
และซึมซับความซาบซึ้งซึ่งห่วงใย
เธอให้..ให้และให้เกินใจคาด
จนฉันขลาดที่จะรับกับการให้
อาจเป็นคนว่างเปล่าเหงาเกินไป
จึงไม่มีอะไรจะให้แทน
กลัวเหลือเกินกลัวเธอผิดหวัง
จึงต้องสั่งหัวใจให้หนักแน่น
ด้วยความดีที่ปรากฎยากทดแทน
ความอบอุ่นก็มากแสนแห่งราคา
สุดท้ายยังซ่อนเร้นความเป็นฉัน
เหมือนไม่เห็นความผูกพันอันมากค่า
ค่อย ๆ เดินออกห่างอย่างช้า ๆ
ปล่อยน้ำตาให้รินไหลอย่างเบา ๆ
เพราะรักมากจึงเงียบหายเหมือนตายจาก
แม้ใจอยากจะมาหาเวลาเหงา
ดอกคูณร่วงลงแล้วอย่างแผ่วเบา
เจ็บและเศร้า..หัวใจเอย..ไม่เคยลืม

ในคืนเหงาแหงนมองดาวที่เกลื่อนฟ้า
ดูสิหนาดวงดาวยังมีเพื่อน
อันตัวเราข้างกายช่างลางเลือน
ไม่มีเพื่อนใส่ใจ…โอ้..อายดาว

นั่งมองเปลวเทียน
ที่มันลุกเวียนมอดไหม้
เป็นความเงียบเหงาของแสงไฟ
ซึ่งไม่มีใครแลเห็นมัน
หัวใจกับเปลวเทียน
จึงเวียนกันแอบร้องไห้
เปลวเทียนค่อย ๆ หมดไป
แต่เหงาในใจกลับเติมเต็ม

คืนนี้ดวงดาวเต็มท้องฟ้า
มันดูสวยยิ่งกว่าสิ่งสิ่งไหน
อยากนั่งมองดูมันตลอดไป
เพราะมันไม่ต่างอะไรกับตัวเธอ
ฉันนั่งอยู่ตรงนี้เวลาเหงา
คอยนับดาววิ่งผ่านอยู่เสมอ
นั่งนับไปเรื่อย ๆ เท่าที่เจอ
เพื่อรอวันที่เธอจะกลับมา

เดียวดายในความเวิ้งว้าง
รอบข้างไร้คนเคยห่วงหา
ความเหงาคอยตอกย้ำรอยน้ำตา
คนไกลเขาจะรู้บ้างไหมว่า
คิดถึงห่วงหา เกินกว่าจะเข้าใจ
(ดาว) dutdao_p@hotmail.com

เจอเรื่องเศร้า มาก็มาก 
เรื่องพลัดพราก ก็หลายหน 
เรื่องความรัก…ผิดหวังก็ปะปน 
ยังเวียนวน อยู่เรื่อยไป 
แม้กาลเวลา จะผ่านพ้น 
กับใจคน ที่หวั่นไหว 
แต่โลกใบนี้ ยังหมุนต่อไป 
ไม่เหลือใคร ยังเหลือตัวเรา 
ผ่านมาถึงค่ำคืนนี้ 
แม้เป็นค่ำคืน ที่เงียบเหงา 
แต่ไม่มีแล้วกับเรื่องเศร้า 
เหลือแค่เพียงความทรงจำ...กับปากกาด้ามเก่า 
และกระดาษสีเทาพร้อมกับกลอนเปล่าเล่าสู่กันฟัง
(mod_tanory 27/11/2007)

คืนนี้ฝันดีฝันหวาน
คืนวานฝันถึงเราไหม
คืนนี้จะฝันถึงใคร
คืนไหนจะฝันถึงเรา

หวาดระแวงอยู่เรื่อยมา
อยู่อย่างไร้ความปลอดภัยตลอดเวลา..รู้ไหม
ความเหงามันจ้องแต่จะกินใจ
ชักจะดูแลตัวเองไม่ไหวไปทุกที
ร้าวใจทุกครั้งที่ฝนหล่น
กอดตัวเองใต้ฟ้าหม่นอยู่อย่างนี้ 
น้ำตาฟ้า..น้ำตาคนปนกันไปทุกที
เธอคนดีจะเคยรู้สึกแบบนี้หรือไม่..อย่างไร
ถ้าเธอเคยเหมือนกัน
คงดีนะ..ถ้ามีเธอมาอยู่ด้วยกันใกล้ๆ 
มาปาดน้ำตาคนอย่าให้ปนน้ำตาฟ้าอีกต่อไป 
มาทำให้คนไร้ความปลอดภัยอยู่อย่างสบายใจได้..เสียที
(โดย NANASA1234 klonthaiclub No.240 9 พ.ค.50)

นานแล้ว..ที่ต้องนอนฝันร้าย 
นานเเล้ว..ที่ผิงกายด้วยความเหงา 
นานแล้ว..ที่ความเหว่ว้าโอบร้อมเป็นเงา 
นานแล้ว..ที่ไม่เคยใช้คำว่า เรา กับใคร 
อยากนอนฝันดีสักคืน... 
อยากลืมตาตื่นอย่างสดใส 
อยากเปลี่ยนฝันร้ายที่มีตลอดมาในใจ 
ขอเป็นเธอได้ไหม.. 
ที่จะทำให้ภาพฝันในใจฉันงดงาม 
(โดย NANASA1234 klonthaiclub No.241 9 พ.ค.50)

เผื่อคนเหงา จะเอาฟ้า เป็นผ้าห่ม
คุยกับดาว ดวงกลมกลม ผ่านลมไหว
เผื่อคนท้อ จะขอดาว เป็นแรงใจ
เผื่อคนไกล จะขอดาว ส่งข่าวมา

คืนนี้.......ก็ยังคงเหมือนเดิม
ไม่มีอะไรเพิ่มเติม......นอกจากความเหงา
ข่มตานอน.....ก้อ เห็นแต่ภาพเก่า - เก่า
ภาพของสองเรา.....มันยังจำติดตา
คืนไหน.......มันก็ไม่ต่างกัน
ยังคงมีเพียงฉัน......ที่หมดแรง ..อ่อนล้า
นั่งอยู่คนเดียว......เปล่าเปลี่ยวเรื่อยมา
มีแตน้ำตา.......คอยเป็นยารักษาใจ
(โดย sonsky klonthaiclub No.428 25 พ.ค.50)

กว่าเราจะได้รู้จักกัน
กว่าเธอกับฉัน จะฝ่าฝันอุปสรรค มาจนวันนี้ได้
กว่าเราจะรักกัน บนพื้นฐาน ของความ"เข้าใจ"
มันใช่เวลาไปมากมาย ที่จะได้รู้จักกัน
ถึงแม้วันนี้ เราจะต้องห่างไกล
แต่ภาพ"ความทรงจำ"มันยังคงงดงาม อยู่ในหัวใจของ"ฉัน"
ยามใดที่เธอ"เศร้า"ขอแค่ให้เธอรู้ว่า เรายังมี"กันและกัน"
ความรักของ"เธอและฉัน"นั้นจะไม่มีวัน"ลบเลือน"ไปจากใจ
(โดย Nuboboclash klonthaiclub No.453 27 พ.ค.50)

ฝากใจไว้ที่ปลายฟ้า....
เผื่อเธอมองมา จะได้เจอฉัน
ฝากความคิดถึง ไปกับดวงจันทร์
ให้เธอคนนั้น.....คนที่ห่างไกล
จะค่ำแล้วซินะ....วันนี้
ป่านนี้คนดี.....ไม่รู้อยู่ไหน
คิดถึงกันบ้างหรือเปล่า....เหงา - เหงาบ้างไหม
หรือมัวแต่คิดถึงใคร....ปล่อยฉันงมงายอยู่คนเดียว
(โดย sonsky klonthaiclub No.465 28 พ.ค.50)

ทุกๆ ทีที่ลืมตา......
สิ่งที่มาทักทาย...คือความเหงา
มองไปทางไหน.....ก็เจอแต่ความว่างเปล่า
เหงา...เหงา....และก็เหงาเรื่อยมา
อยากจะมีใครสักคน......
ที่พอตื่นขึ้นมา ก็เจอหน้า
หลับก็ฝันเห็น....เห็นกันทุกเวลา
แต่ไม่รู้เมื่อไหรนะ.....จะได้เจอ
(โดย sonsky klonthaiclub No.462 28 พ.ค.50)

ในวันเหงาๆ
มีเพียงภาพทรงจำเก่าๆเป็นเพื่อน
ในเวลาที่ความอ้างว้างมาเยี่ยมเยือน
มีเพียงน้ำตาเป็นเพื่อนทุกครั้งไป..
ในวันเหงาๆ
ทุกๆครั้งที่เศร้า..หวั่นไหว
มีเพียงดวงจันทร์บนฟ้า..คอยซับน้ำตายามเสียใจ
มีดวงดาวคอยปลอบเมื่อร้องไห้
เพราะว่าคิดถึงใครบางคน
(โดย NANASA1234 klonthaiclub No.348 15 พ.ค.50)

จะไม่ลุกขึ้นมาประท้วง
ทวงสิทธิ์ที่พึงมี พึงได้
ฉันเข้มแข็งพอที่จะยืนหยัดอยู่ต่อไป
ขาดเธอ..ก็ไม่ขาดใจนี่นา
จะไม่ร้องขอคืนสิ่งใด
จะไม่ร่ำไรให้เธอสมน้ำหน้า
น้ำตาก็อาจมีบ้างเป็นธรรมดา
แต่เชื่อเถอะว่า..ฉันเช็ดน้ำตาฉันได้เอง
(โดย NANASA1234 klonthaiclub No.365 18 พ.ค.50)

เหงาจัง...
อยากมีใครมานั่งเคียงข้าง...อยู่ใกล้ - ใกล้
กระซิบบอกคำรัก....มองดูจันทร์บนฟ้าไกล
อิงแอบแนบชิดไหล่....ปล่อยหัวใจเราคุยกัน
เหงาจังเลยละ....
เธอไปอยู่ไหนนะ....คนในฝัน
หรือจะปล่อยให้เรา....เหงาเดียวดายไปทุกวัน
มีใครบ้างไหมที่เหงาเหมือนกัน.......ช่วยบอกที
(โดย sonsky klonthaiclub No.411 23 พ.ค.50)

ที่หลับได้ทุกคืน เพราะอ่อนล้า
แหงนมองไปบนฟ้า ก็เหมือนเก่า
ฟ้ายังคงมีจันทร์ กับดวงดาว
ฉันยังคงมีความเหงา เป็นเพื่อนใจ
มองไปตามเส้นทาง อยู่ตรงหน้า
ก็แอบหลบ เช็ดน้ำตาที่รินไหล
มองเส้นทาง ดูจะกว้างและห่างไกล
แล้วเมื่อไหร่ วันไหนจะได้เจอ
ห่างกันมาก็ไกล ในวันนี้
ก็ยังคิดถึงคนดี อยู่เสมอ
เพิ่งรู้ว่าวันนี้ ไม่มีเธอ
น้ำตาจะนอง ล้นเอ่อได้มากมาย
(โดย ดวงไฟ klonthaiclub No.573 11 มิ.ย.50)

หลับตาลงน่ะ...คนดี
คืนนี้มีนิทานจากฟากฝัน
เจ้าหญิงเม็ดทราย กับ เจ้าชายพระจันทร์
เธอเคยได้ฟังเรื่องราวเหล่านั้นบ้างไหม?
ครั้งหนึ่งในดินแดนแห่งโลกกว้าง
มีผืนทะเลอ้างว้างกับฟ้าใส
ทั้งสองอยู่ห่างกันเหมือนแดนฝันห่างไกล
ไม่อาจอยู่ใกล้ ไม่อาจผูกพัน
เจ้าหญิงเม็ดทราย...ช่างเหงา
แอบรัก เจ้าชายพระจันทร์เศร้า...ช่างฝัน
ในค่ำคืนเงียบสงบ ทุกวัน
เจ้าหญิงได้แต่มองอย่างเงียบงัน..เดียวดาย
ท้องทะเล ผู้อ่อนโยน
จึงทอดตัวไปจนไกลโพ้น..ลับหาย
จนปรากฎเส้นขอบฟ้า แสนไกล
จรดฟ้ากับทะเลไว้ใกล้กัน
เจ้าหญิงเม็ดทรายจึงล่องไปในทะเล
ร่อนเร่ไปตามแดนแห่งฝัน
ไปจนถึงเส้นขอบฟ้าจรดพระจันทร์
แล้ว ณ ที่นั้นความผูกพันก็เบ่งบาน
เจ้าหญิงเม็ดทราย เจ้าชายพระจันทร์
อบอุ่นในคืนวันอันอ่อนหวาน
และเรื่องราวที่เกิดขึ้นคือ..ตำนาน
ว่าทำไมฉันจึงผ่านเข้ามา...รักเธอ 
(โดย SA_TAN_NOY klonthaiclub No.1087 22 ก.ค.50)

ปลอบใจตัวเอง ในวันเหงา
วันที่เศร้า วังเวง แสนสับสน
วันที่ต้องการ คนดูแล เพียงซักคน
เพื่อผ่านพ้น วันนี้ที่ เดียวดาย
จะมีไหมคนนั้น ที่ใฝ่หา
มาช่วยซับ น้ำตา คนอ่อนไหว
ให้คนๆนี้ มีสุข ลืมทุกข์ใจ
จะมีไหม คนที่ใช่ เพียงสักคน
(โดย น้ำตาหยดสุดท้ายklonthaiclub No.1461 15 ส.ค.50)

ในค่ำคืน ที่ช่าง เงียบสะงัด
เหมือนคลื่นซัด พัดฉัน ให้หวั่นไหว
มีเสียงเพลงเบาๆ ให้เราได้เศร้าใจ
เมื่อไม่มีใคร คอยห่วงใย และเฝ้าคอย
ในหัวใจไม่มี สิ่งใดที่จะรู้
ว่า..ความรัก มันอยู่ที่ตรงไหน
มีแต่เรา กับความเหงา ที่เศร้าใจ
กับหนึ่งดวงใจ ที่ไม่มีใคร จะต้องการ
(โดย Rallow klonthaiclub No.893 6 ก.ค.50)

ในค่ำคืน เดียวดาย ริมชายหาด
มองคลื่นสาด เข้าฝั่ง ยังใจหาย
เหมือนตัวเรา ลอยคว้าง อย่างเดียวดาย
จะมีใคร บ้างไหม เข้าใจเรา
- - - - -
มองอีกมุม ให้ใจ ได้หยุดคิด
มายึดติด อะไร กับความเหงา
ไร้เพื่อนคุย ก็เปิด เพลงเบาเบา
อย่างน้อยเรา เข้าใจ ใจเราเอง
(โดย Alpha klonthaiclub No.893 9 ก.ค.50)

...เพียงลมโบก...พัดเบา...ให้เหงาจิต...
...ใบไม้ปลิด...ปลิวร่อน...ลงจากก้าน...
...ไผ่ต้นน้อย...ลู่ตาม...อย่างสุดทาน...
...เอนเอียงตาม...ลมผ่าน...ทุกคราไป...
- - - -
...บางครั้งก่อ...กำเนิด...ให้เกิดเสียง...
...สายลมเพียง...พัดใบ...ให้โบกไหว...
...ชวนใจเศร้า...โศกศัลย์...ถึงคนไกล...
...ว่าวันใด...จึงได้...เธอกลับคืน...
- - - -
...พายุพัด...กระหน่ำ...ซ้ำลมซัด...
...ต้นไผ่ฤๅ...ยืนหยัด...ไม่อาจฝืน...
...หักลงมา...สู่ดิน...ดั่งกองฟืน...
...ก้มหยิบไม้...จากพื้น...ทั้งน้ำตา...
- - - -
...นำมาเหลา...ให้เรียบ...ดูงามสวย...
...เจาะรูด้วย...ความคิด...คำนึงหา...
...เสียงจากไม้...เคยเศร้า...เหงาอุรา...
...วันนี้มา...เถิดฉัน...จะเป่าแทน...
- - - -
...หวังให้เสียง...ขลุ่ยครวญ...ลอยไปถึง...
...ใครคนหนึ่ง...ซึ่งฉัน...เฝ้าหวงแหน...
...เมื่อเราอยู่...ต่างภพ...จบดินแดน...
...ปรารถนา...เหลือแสน...จะพบกัน...
- - - -
...หากวันใด...ได้ยิน...เพลงขลุ่ยผิว...
...แว่วข้ามทิว...เขาสูง...ดุจความฝัน...
...นั่นคือความ...ในใจ...นับร้อยพัน...
...ที่ตัวฉัน...ส่งผ่าน...มากับลม...
(โดย Alphaklonthaiclub No.2341 30 ก.ย.50)

ค่ำคืนนี้ ดวงดาว กระจ่างใส
ไม่เหมือนใจ ของเรา ที่อ่อนล้า
อยู่กับความ ขี้เหงา เจ้าน้ำตา
ไม่มีค่า เหมือนดารา บนฟ้าไกล
- - - -
อยากมีค่า ในสายตา เธอคนนั้น
เป็นคนที่ เธอฝันหา บ้างได้ไหม
เป็นคนที่ เธอคิดถึง เมื่อทุกข์ใจ
ขอสักนิด ได้ไหม หัวใจเธอ
- - - -
แม้วันนี้ ตรงกลาง ระหว่างเรา
มีตัวเขา คนนั้น ขวางกั้นไว้
เธอรักเขา เธอห่วงเขา มากกว่าใคร
เหมือนฉันไง ที่หัวใจ มีแต่เธอ
(โดย *u*grafill*u* klonthaiclub No.2870 19 ต.ค..50)

แค่หนึ่งใจ ทำไมเหมือน มีสองดวง
ไม่เคยห่วง ไม่เคยหวง ถึงตัวเขา
ทุกเวลา ก็คิดถึง แต่ตัวเรา
แต่ก็เหงา เศร้าเมื่อ ขาดเขาไป
- - - -
ตอนห่างเขา ทำไมเรา เหมือนว้าเหว่
เหมือนมีเล่ห์ แฝงกล ที่หวั่นไหว
คนคนนี้ ฉันจะรัก ได้อย่างไร
แต่หัวใจ มันรู้สึก ว่ารักเธอ
(โดย Dhanaiphat1133 klonthaiclub No.2881 23 ต.ค.50)

แม้นต้องจาก...กันไป...ด้วยใจชื่น
ทิวาตื่น....ราตรีรื่น...พิศมัย
เพราะเคารพ...ในรัก...ที่จริงใจ
ฝากเอาไว้...ในหัวใจ...ของสายลม
- - - -
โดยให้ฉัน...เป็นเมฆน้อย..ลอยบนฟ้า
ยังต่ำกว่า...ดวงจันทร์...ในความฝัน
น้ำตาฟ้า....น้ำตาเมฆ...หลอมรวมกัน
หยาดลงมา..เพื่อลาจันทร์..นิรันดร์กาล
(โดย เทพบุตรแห่งสายลม klonthaiclub No.2881 25 ต.ค.50)