วันอาทิตย์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2555

หน่วงRoom 39 (รูม 39) - หน่วง [MV Full HD]


 ห น่ ว ง อ่ะ
เพราะดีนะคร้า
********* ทุกๆ ครั้งที่เธอนั้นส่งรอยยิ้มเข้ามาทักทาย 
ทุกๆ ครั้งที่เธอนั้นส่งสายตาเข้ามาหากัน 
ทำให้ฉันนั้นแทบจะขึ้นสวรรค์ 
ทั้งที่ยังยืนอยู่ตรงนั้น 
(แทบจะขึ้นสวรรค์ทั้งที่ยืนอยู่) 

ทุกๆ ครั้งที่เธอนั้นคอยส่งเสียง และทุกข้อความ 
ทุกๆ ครั้งที่เธอนั้นคอยเฝ้าถาม และเป็นห่วงฉัน 
ทำให้ฉันนั้นแทบจะดิ้น ดิ้นตายอยู่ตรงนั้น 

แต่ติดที่ฉันนั้นไม่ใช่เพียงคนเดียว 
(เพียงคนเดียว เพียงคนเดียว) 
ที่ได้รับท่าทีที่แสนดีเหล่านั้น 

มันจึงเป็นความรัก ที่ไม่ถึงกับสุข 
เป็นความทุกข์ ที่ไม่ถึงกับเศร้า 
เป็นความรัก ที่ทั้งซึ้งทั้งเหงาอยู่ด้วยกัน 
(เป็นความซึ้งและความเงียบเหงาอยู่ด้วยกัน) 

จึงเป็นความรักที่มาพร้อมความอึดอัด 
และเป็นความรักที่ไม่เคยเห็นภาพชัดๆ สักวัน 
มีแค่ความรู้สึกครึ่งๆ กลาง ๆ 
ข้างในใจของฉัน เพียงคนเดียว 

ทุกๆ ครั้งที่มือของเรานั้น ได้มาสัมผัส 
ทุกๆ ครั้งที่เธอนั้น บอกความลับให้ฉันฟัง 
รู้ไหมว่าหัวใจของฉัน มันแทบละลายอยู่ตรงนั้น 

แต่ติดที่ฉันนั้นไม่ใช่เพียงคนเดียว 
(เพียงคนเดียว เพียงคนเดียว) 
ที่ได้รับท่าทีที่แสนดีเหล่านั้น 

มันจึงเป็นความรัก ที่ไม่ถึงกับสุข 
เป็นความทุกข์ ที่ไม่ถึงกับเศร้า 
เป็นความรัก ที่ทั้งซึ้งทั้งเหงาอยู่ด้วยกัน 
(เป็นความซึ้งและความเงียบเหงาอยู่ด้วยกัน) 

จึงเป็นความรักที่มาพร้อมความอึดอัด 
และเป็นความรักที่ไม่เคยเห็นภาพชัดๆ สักวัน 
มีแค่ความรู้สึกครึ่งๆ กลาง ๆ 
ข้างในใจของฉัน เพียงผู้เดียว 

ฉันไม่รู้ ระหว่างเรานั้นคืออะไร 
และไม่รู้ต้องเป็นอย่างนี้ ไปอีกนานแค่ไหน 

มันจึงเป็นความรัก ที่ไม่ถึงกับสุข 
เป็นความทุกข์ ที่ไม่ถึงกับเศร้า 
เป็นความรัก ที่ทั้งซึ้งทั้งเหงาอยู่ด้วยกัน 
(เป็นความซึ้งและความเงียบเหงาอยู่ด้วยกัน) 

จึงเป็นความรักที่มาพร้อมความอึดอัด 
และเป็นความรักที่ไม่เคยเห็นภาพชัดๆ สักวัน 
มีแค่ความรู้สึกครึ่งๆ กลาง ๆ 

จึงเป็นความรัก ที่ไม่ถึงกับสุข 
เป็นความทุกข์ ที่ไม่ถึงกับเศร้า 
เป็นความรัก ที่ทั้งซึ้งทั้งเหงาอยู่ด้วยกัน 

จึงเป็นความรักที่มาพร้อมความอึดอัด 
และเป็นความรักที่ไม่เคยเห็นภาพชัดๆ สักวัน 
มีแค่ความรู้สึกครึ่งๆ กลาง ๆ 
ข้างในใจของฉัน เพียงผู้เดียว 
อึดอัดในใจของตัวฉันเพียงผู้เดียว แค่คนเดียว

... 'ความรัก' ในปรัชญาชีวิต ของ คาลิล ยิบราน


ความรักไม่ให้สิ่งอื่นใดนอกจากตนเอง และก็ไม่รับเอาสิ่งใดนอกจากตนเอง ความรักไม่ครอบครอง และก็ไม่ยอมให้ถูกครอบครอง เพราะความรักนั้นพอเพียงแล้วสำหรับตอบความรัก'

คาลิล ยิบราน (Kahlil Gibran) นักเขียนและกวีชาวเลบานอน ผู้มีชื่อเสียงกระฉ่อนโลก กล่าวถึงความรักด้วยภาษางดงามสุดซึ้งไว้ในหนังสือ The Prophet หรือ "ปรัชญาชีวิต" ที่แปลโดย อ.ระวี ภาวิไล

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ความรัก

เมื่อความรักร้องเรียกเธอจงตามมันไป
แม้ว่าทางของมันนั้นจะขรุขระและชันเพียงไร
และเมื่อปีกของมันโอบรอบกายเธอ จงยอมทน
แม้ว่าหนามแหลมอันซ่อนอยู่ในปีกนั้นจะเสียดแทงเธอ
และเมื่อมันพูดกับเธอ จงเชื่อตาม
แม้ว่าเสียงของมันจะทำลายความฝันของเธอ
ดังลมเหนือพัดกระหน่ำสวนดอกไม้ให้แหลกลาญไปฉะนั้น

เพราะแม้ขณะที่ความรักสวมมงกุฎให้เธอ มันก็จะตรึงกางเขนเธอ
และขณะที่มันให้ความเติบโตแก่เธอนั้น มันก็จะตัดรอนเธอด้วย
แม้ขณะเมื่อมันไต่ขึ้นไปสู่ยอดสูง และลูบไล้กิ่งก้านอันแกว่งไกวในแสงอรุณ
แต่มันก็จะหยั่งลงสู่รากลึก และเขย่าถอนตรงที่ยึดมั่นอยู่กับดินด้วย

ความรักจะรวบรวมเธอเข้าดังฝักข้าวโพด
มันจะแกะเธอออกจนเปลือยเปล่า
แล้วมันจะร่อนเพื่อให้เธอหลุดจากเปลือก
มันจะบดเธอจนเป็นผงขาว
แล้วก็จะขยำจนเธออ่อนเปียก
แล้วมันก็จะนำเธอเข้าสู่ไฟอันศักดิ์สิทธิ์ของมัน
เพื่อว่าเธอจะได้กลายเป็นอาหารทิพย์ของพระเป็นเจ้า

ความรักจะกระทำสิ่งทั้งหมดนี้แก่เธอ
เพื่อว่าเธอจะได้หยั่งรู้ความลับของดวงใจเธอเอง
และด้วยความรู้นั้นเธอก็จะได้เป็นส่วนหนึ่งของดวงใจแห่งชีวิตอมตะ
แต่ถ้าหากด้วยความกลัว เธอมุ่งแต่แสวงหาความสงบสุขและความสำราญจากความรัก
ก็จะเป็นการดีกว่าที่เธอควรจะปกคลุมความเปลือยเปล่าของตนและหลีกหนีออกไปเสียจากลานบด
ไปสู่โลกอันไร้ฤดูกาล ที่ซึ่งเธอจะหัวเราะก็ไม่เต็มที่และจะร้องไห้ก็ไม่เต็มที่

ความรักไม่ให้สิ่งอื่นใดนอกจากตนเอง
และก็ไม่รับเอาสิ่งใดนอกจากตนเอง
ความรักไม่ครอบครอง และก็ไม่ยอมให้ถูกครอบครอง
เพราะความรักนั้นพอเพียงแล้วสำหรับตอบความรัก

เมื่อเธอรัก อย่าได้พูดว่า
พระผู้เป็นเจ้าอยู่ในดวงใจเรา แต่ควรพูดว่าเราอยู่ในดวงใจพระผู้เป็นเจ้า
และอย่าได้คิดว่า เธอสามารถนำแนวทางของความรักได้ เพราะถ้าความรักพบว่าเธอมีคุณค่าพอแล้วก็จะเป็นผู้นำแนวทางของเธอเอง
ความรักไม่มีปรารถนาสิ่งอื่นใด นอกจากที่จะทำตนเองให้สมบูรณ์
แต่ถ้าหากเธอรัก และจำต้องมีความปรารถนา ก็ขอให้ความปรารถนาของเธอจงเป็นดังนี้

เพื่อจะละลายและไหลดังธารน้ำ ซึ่งส่งเสียงเพลงกล่อมราตรี
เพื่อจะเรียนรู้ความปวดร้าว อันเกิดแต่ความอ่อนโยนละมุนละไมเกินไป
เพื่อจะต้องบาดเจ็บ ด้วยความเข้าใจในความรักของตนเอง
และเพื่อจะยอมให้เลือดหลั่งไหลด้วยความเต็มใจและปราโมทย์
เพื่อจะตื่นขึ้น ณ รุ่งอรุณด้วยดวงใจอันปิติและขอบคุณความรักอีกวันหนึ่ง
เพื่อจะหยุดพัก ณ ยามเที่ยง และเพ่งพินิจความสุขซาบซึ้งของความรัก
เพื่อจะกลับบ้าน ณ ยามพลบค่ำด้วยความรู้สึกสำนึกคุณ

และเพื่อจะหลับไปพร้อมกับคำสวดมนต์ภาวนาสำหรับคนรักในดวงใจ
และเพลงสรรเสริญบนริมฝีปากของเธอ

*****************************************



ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
www.tamdee.net

..อวตารที่ไม่ใช่อวตาร

* นำเสนออวตาร 3 แบบ
8 ม.ค.52 หลายปีมานี้ได้รับมอบหมายจาก หัวหน้างานประชาสัมพันธ์ และ คณบดีคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ให้เขียนบทความลงหนังสือพิมพ์ฅนเมืองเหนือ เพื่อเผยแพร่ประสบการณ์ให้ชาวลำปางได้ร่วมเรียนรู้จากมุมมองของนักวิชาการในสถาบันการศึกษา ประกอบกับเป็นโยบายของ ท่านอธิการบดี ที่ส่งเสริมให้บุคลากรได้มีงานเขียนในสื่อท้องถิ่นอย่างต่อเนื่อง บทความที่ 225 นี้เป็นงานที่เขียนในเวลางาน และเสร็จในการเขียนรอบเวลาเดียว จึงตัดสินใจ post เข้า blog ครับ กลับบ้านจะได้ clear งานอื่น
ไอทีในชีวิตประจำวัน # 225 อวตารที่ไม่ใช่อวตาร     ปัจจุบันคำว่า อวตาร (Avatar) ถูกใช้ในหลายโอกาส ทั้งในชื่อภาพยนตร์ แสดงเป็นตัวแทนในเว็บไซต์ หรือการแบ่งภาคของเทพ ซึ่งต้นกำเนิดของคำนี้มาจากความเชื่อของศาสนาฮินดู ว่า อวตารคือการแบ่งภาคของเทพในศาสนามาเกิดบนโลกมนุษย์ อาจแบ่งมาเกิดเป็นมนุษย์หรือสัตว์ก็ได้ เพื่อมาทำหน้าที่บรรเทาความเดือดร้อนของมนุษย์ ส่วนความเชื่อของชาวพุทธนิกายวัชรยานมีความเชื่อว่าพระพุทธเจ้าและพระโพธิสัตว์อวตารหรือแบ่งภาคได้เช่นกัน อาทิ ชาวพุทธในทิเบตเชื่อว่า ทะไล ลามะ เป็นอวตารของพระอวโลกิเตศวร และ ปันเชน ลามะ เป็นอวตารของพระอมิตาภะพุทธะ เป็นต้น
     ภาพยนตร์เรื่องอวตาร 2552 แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาทางเทคโนโลยีมัลติมีเดีย และจินตนาการทางวิทยาศาสตร์ในการย้ายจิตวิญญาณจากร่างหนึ่งไปสู่อีกร่างหนึ่งเสมือนการเข้าสิง หรือการถอดร่างออกไปควบคุมร่างใหม่ หรือร่างอวตาร โดยร่างเดิมไม่มีความรู้สึกนึกคิดหลงเหลืออยู่ เมื่อปิดเครื่องส่งถ่ายจิตวิญญาณจะทำให้ดึงจิตวิญญาณจากร่างอวตารกลับมายังร่างจริงในทันที แนวคิดนี้ต่างกับอวตารในความเชื่อทางศาสนาในประเด็นที่เทพสามารถแบ่งพลังเพียงส่วนหนึ่งไปเป็นร่างใหม่ที่มีความรู้สึกนึกคิดของตนเอง แต่ในภาพยนตร์คือการย้ายจิตวิญญาณไปยังร่างใหม่
     คำว่า Avatar ที่เราพบในเว็บไซต์เป็น อวตารคอมพิวเตอร์ คือ สัญลักษณ์แสดงตัวตนของเจ้าของ พบได้ในเว็บไซต์เครือข่ายสังคม เกมคอมพิวเตอร์ เว็บบอร์ด มีลักษณะเป็นภาพไอคอน ภาพการ์ตูน ภาพถ่าย หรือภาพเสมือนจริง ในความหมายนี้อวตารเป็นเพียงตัวแทนแสดงตน แสดงความรู้สึก รูปลักษณ์ .....หรือลักษณะที่เจ้าของอวตารต้องการสื่อสาร... ไปพร้อมกับบทบาท บทความ บล็อก สารสนเทศ หรือเว็บไซต์ ซึ่งเป็นตัวแทนที่ขาดการเชื่อมโยงทางจิตวิญญาณกับเจ้าของอย่างแท้จริง เพราะหากข้อมูลลบ หรืออวตารถูกเปลี่ยน เจ้าของจะไม่รู้ถึงการเปลี่ยนเหล่านั้นแต่จะทราบได้ก็ต่อเมื่อมีใครแจ้งให้ทราบหรือกลับมาเปิดดูอีกครั้งเท่านั้น ก็มีคำถามว่าท่านมีอวตารหรือเข้าใจความต่างของอวตารทั้ง 3 แบบว่าอย่างไร
http://www.thaiall.com/opinion/readonly.php